ตะลุยฝันสองพันไมล์ (3): น้ำตกไนแอการา – Niagara Falls

น้ำตกไนแอการา – Niagara Falls

เมื่อวานกรุ้ปทัวร์เราออกเดินทางจาก Washington DC มุ่งสู่ทางทิศเหนือ 120 ไมล์ พักค้างคืนกันที่เมือง Harrisburg ซึ่งอยู่ในเขตรัฐ Pennsylvania

วันนี้เราเดินทางกันต่ออีก 300 ไมล์ จุดหมายปลายทางและโปรแกรมท่องเที่ยวในวันนี้ของเราคือ น้ำตกไนแองการาอันยิ่งใหญ่..

จุดแวะพักระหว่างทางของเราคือ Corning Museum of Glass ที่เมือง Corning รัฐนิวยอร์ค ที่นี่เป็นศูนย์แสดงผลิตภัณฑ์เครื่องแก้วที่ใหญ่โตมีชื่อเสียง ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1951 มีเครื่องแก้วที่จัดแสดงอยู่กว่า 45,000 ชิ้น โดยมีความเกี่ยวพันทั้งทางด้านศิลปะ วิทยาศาสตร์ และประวัติศาสตร์ เครื่องแก้วบางชิ้นมีอายุเก่าแก่กว่า 3,500 ปี

มีการสาธิตการเป่าแก้ว ตลอดจนการขึ้นรูปจนสำเร็จเป็นผลิตภัณฑ์ที่สวยงามให้ชม

จุดแรกของไนแอการา ที่เราแวะเที่ยวชมคือ Old Fort of Niagara เป็นป้อมปืนเก่าแก่อายุกว่า 300 ปี เมื่อครั้งสงครามอาณานิคมฯ

Fort of Niagara เป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญเนื่องจากตั้งอยู่บริเวณปลายสุดของแม่น้ำไนแอการาก่อนไหลลงสู่ทะเลสาบออนตาริโอ

สาทิตการยิงปืนลูกซองโบราณของทหาร โดยคุณลุงสุดหล่อ อย่างเท่ห์

มุมมองจาก Old Fort of Niagara ข้ามทะเลสาบออนตาริโอ จะเห็นเมืองโตรอนโต ของคานาดาอยู่ลิบๆ

น้ำตกไนแอการา (Niagara Falls)..  
เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงของทวีปอเมริกาเหนือ ตั้งอยู่บนพรมแดนระหว่างประเทศแคนาดากับสหรัฐอเมริกา โดยมีแม่น้ำไนแอการาเป็นตัวแบ่งเขต เมืองในฝั่งแคนาดาคือ ไนแอการาฟอลส์ รัฐออนตาริโอ ส่วนเมืองในฝั่งสหรัฐอเมริกาคือ ไนแอการาฟอลส์ รัฐนิวยอร์ก

น้ำตกไนแองการามีจุดชมวิวที่สวยงามและเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของทั้ง 2 ประเทศมานานกว่าศตวรรษ

น้ำตกไนแอการาเกิดขึ้นจากแม่น้ำไนแอการา ซึ่งมีความยาว 36 ไมล์ หรือประมาณ 58 กิโลเมตร ที่ไหลจาก ทะเลสาบอีรี ทางด้านทิศใต้ ไปลงสู่ ทะเลสาบออนตาริโอ ทางด้านทิศเหนือ อันมีระดับพื้นที่แตกต่างกันมากถึง 99 เมตร หรือ 325 ฟุต เมื่อกระแสน้ำไหลมายังตำแหน่งที่ถูกขวางไว้ด้วยเกาะ Goat Island และเกาะเล็กๆอีกหนึ่งเกาะที่ชื่อว่า Luna Island กระแสน้ำจึงแยกตัว และก่อให้เกิดเป็นน้ำตก 3 แห่งที่มีปริมาณน้ำมากมายมหาศาล และเรียกชื่อน้ำตกทั้งสามนี้รวมกันว่า น้ำตกไนแอการา

น้ำตกที่ใหญ่และสวยงามที่สุดคือ Horseshoe Falls (น้ำตกเกือกม้า) หรือ บางครั้งเรียก Canadian Falls เนื่องจากตั้งอยู่ในฝั่งประเทศคานาดา มีความกว้างของน้ำตกถึง 670 เมตร (2,200 ฟุต)

American Falls (ความกว้าง 260 เมตร หรือ 850 ฟุต) และ น้ำตกขนาดเล็กที่อยู่ติดกัน – Bridal Veil Falls (ความกว้าง 15 เมตร หรือ 50 ฟุต) ตั้งอยู่ในฝั่งประเทศสหรัฐอเมริกา

เปรียบเทียบความยิ่งใหญ่ของ Horseshoe Falls (ซ้าย) กับ American Falls (ขวา)

นับเป็นความโชคไม่ดีของอเมริกา ที่จุดชุมวิวแบบเต็มๆตา และสวยงามที่สุดของน้ำตกทั้งสามนี้กลับอยู่ในฝั่งคานาดา แม้ว่าทางอเมริกาจะพยายามชดเชยโดยการสร้าง Observation Deck ยื่นออกมาในแม่น้ำไนแอการาเพื่อเพิ่มมุมมองให้นักท่องเที่ยว แต่ก็สู้การชมจากทางฝั่งคานาดาไม่ได้อยู่ดี

การวางแผนมาเที่ยวชมน้ำตกไนแอการา จึงแนะนำเป็นอย่างยิ่งว่า ให้ทำวีซ่าคานาดา (ประมาณ 3 พันบาท ได้แบบ Multiple 3-4 ปี)  แล้วข้ามมาเที่ยวทางฝั่งประเทศคานาดาด้วย ไหนๆก็เสียเงินเสียทอง เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมาซะตั้งไกลแล้ว

ตำนานน้ำตกไนแองการ่า ที่มีฉายาว่า Maid of the Mist ซึ่งแปลตามตัวอักษรได้ว่า หญิงสาวแห่งสายหมอก  
ตามตำนานเล่าว่า สมัยหนึ่งชาวอินเดียนแดงที่อาศัยแถบนี้ล้มตายลงเป็นอันมากด้วยโรคระบาด พวกเขาเชื่อว่าเป็นเพราะเทพเจ้าแห่งสายน้ำไม่โปรดจึงลงโทษด้วยการคร่าชีวิตผู้คน จึงส่งลูกสาวของหัวหน้าเผ่าลงเรือให้ไหลลงไปตามน้ำตกเพื่อสังเวยแด่เทพเจ้า เทพเจ้าโปรดปรานเธอมาก เธอตกลงยอมเป็นภรรยาโดยมีเงื่อนไขว่าเทพเจ้าต้องช่วยชีวิตผู้คนในเผ่าเธอ เทพเจ้าจึงเปิดเผยว่าที่ผู้คนล้มตายเป็นเพราะงูยักษ์ที่อาศัยอยู่ในลำน้ำคายพิษลงในน้ำดื่ม เธอจึงปรากฏกายขึ้นในม่านน้ำ (mist) เพื่อแจ้งข่าวแก่ชาวบ้าน ตกกลางคืนชาวบ้านจึงรุมจับงูและฆ่าทิ้ง ศพของงูลอยไปติดแก่งเหนือน้ำตก จึงขวางทางน้ำเป็นรูปโค้งเหมือนเกือกม้าอย่างที่เห็น

เกร็ดภูมิศาสตร์: ในบริเวณน้ำตกไนแองการ่า มีทะเลสาบ ซึ่งประกอบกันของทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ที่สุดในโลกอยู่รวมกัน 5 แห่งที่มีชื่อ
เรียกรวมกันว่า Great Lakes คือทะเลสาบฮิวรอน (Huron) ออนทาริโอ (Ontario) มิชิแกน (Michigan) อีรี (Erie) และ ซุพีเรียร์ (Superior)  น้ำตกไนแอการาคือรอยต่อระหว่าง ทะเลสาบอีรี กับ ทะเลสาบออนทาริโอ

โม้มาเสียตั้งนาน กลับมาเข้าเรื่องทริปของเราต่อ
Niagara State Park เป็นจุดชมวิวทางฝั่งของอเมริกา

Orin Lehman Visitor Center มี Niagara Adventure Theater ให้ชมด้วย

วิวด้านข้างของ American Falls ที่เห็นได้จากลานชมวิวของฝั่งอเมริกา

ถัดลงมาจากน้ำตกไนแอการา จะมีบริเวณที่กระแสน้ำเชี่ยวกรากและไหล-วน สามารถชมวิวได้ที่  Whirlpools State Park

น้ำตกไนแอการาในยามค่ำคืน

ชมแสดงโชว์การเต้นรำของชนเผ่าพื้นเมือง

ตามปรกติแล้วจุดชมวิวทางฝั่งคานาดาจะสามารถมองเห็นน้ำตกไนแอการาทั้งหมดได้อย่างเต็มตา แต่โชคไม่ดีที่ตอนเราไป อากาศยังคงหนาวอยู่ จึงมีหิมะที่แข็งตัวจับเป็นก้อนปรากฎอยู่ทั่วไปในบริเวณน้ำตก เห็นแล้วพูดไม่ออก บอกไม่ถูก  T_T

# สิ่งที่เราคิดว่าจะได้เห็น..

# ภาพจริงที่เราได้เจอ.. T_T

Rainbows Bridge

การบริหารจัดการโดย Niagara Park ของฝั่งประเทศคานาดา

ไฮไล้ท์ที่แนะนำ คือขึ้นไปทานอาหารและชมวิว จากหอคอย Skylon Tower ที่สามารถหมุมชมวิวได้ 360 องศาโดยเฉพาะถ้ามาในวันอากาศดีๆ ต้องไม่พลาดด้วยประการทั้งปวง..

ขอปิดท้ายรีวิวชีวิตจริง (ที่ไม่อาจสมหวังได้ทุกสิ่ง) ด้วยภาพสวยๆของ Niagara Falls จากอินเตอร์เน็ตเเทน คราวหน้าถ้ามีโอกาส จะขอกลับมาล้างตาอีกครั้ง ในวันที่อากาศดีๆกว่านี้…^^

—: ตอนหน้า: แรกเยือนถิ่นคานาดา – โตรอนโต – ออตตาวา :—

แชร์เรื่องนี้:

• Facebook
• Line