เครื่องบินเราถึงจุดหมายปลายทางที่ ท่าอากาศยานนานาชาติโดโมเดโดโว (Domodedovo) ของกรุงมอสโควอย่างราบรื่นตามกำหนด ใช้เวลาในขั้นตอนการตรวจเข้าเมืองไม่นาน ก็ได้ออกมาเหยียบแผ่นดินที่เคยมีประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่และยาวนาน สนามบินแห่งนี้ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองไปทางใต้ประมาณ 35 กิโลเมตร เปิดให้บริการมาตั้งแต่ พ.ศ. 2507 มีขนาดใหญ่ ระบบต่างๆทันสมัยตามมาตรฐานสากล
ซิมการ์ด: นอกจากซิมเดินทางต่างประเทศของค่ายโทรศัพท์ต่างๆในประเทศไทยแล้ว ตัวเลือกที่น่าสนใจอีกอันก็คือการซื้อซิมของประเทศรัสเซีย ซึ่งมีราคาไม่เเพง แถมได้เเพ็คเก็ตการใช้งาน (ทั้งโทรศัพท์และอินเตอร์เน็ต) อย่างจุใจ เจ้าที่เราใช้คือ MagaFon แพ็คเก็ตราคา 600 RUB ใช้อินเตอร์เน็ตดาต้าได้ 15 GB, โทรศัพท์ได้มากถึง 600 นาที คุณภาพดีทีเดียว
ออกจากอาคารผู้โดยสารโดยใช้ทางออกที่ 3 เดินไปตามทางที่มีป้ายสีเเดงภาษารัสเซีย (ป้ายที่นี่ส่วนใหญ่จะไม่มีภาษาอังกฤษกำกับ) เพื่อไปยังสถานีรถไฟ Aeroexpress
Aeroexpress เป็นขบวนรถไฟด่วนแบบสองชั้นทันสมัย ที่วิ่งระหว่างสนามบินโดโมเดโดโวและสถานีรถไฟใต้ดิน Paveletskaya (โดยไม่หยุดที่สถานีอื่นใดๆในระหว่างทาง) ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 40-50 นาที ค่าโดยสารคนละ 500 RUB
สถานีปลายทางของรถไฟ Aeroexpress เป็นชานชลากลางแจ้ง เราสามารถข้ามไปยังสถานีรถไฟใต้ดิน Paveletskaya ที่อยู่ติดกัน เพื่อเดินทางต่อไปยังจุดหมายปลายทางอื่นๆได้
ทริปเดินทางท่องเที่ยวเมืองมอสโควของเราเริ่มต้นขึ้นจากตรงนี้…^^
สัญลักษณ์ตราแผ่นดินของรัสเซียคือรูปนกอินทรีสองหัว อันมีความหมายแสดงถึงความกว้างใหญ่ของประเทศรัสเซีย โดยแต่ละหัวหันไปทางซ้ายและขวา หมายถึงการดูแลดินแดนของรัสเซียทั้งทางฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออก ส่วนไม้คทาหมายถึงอำนาจ ลูกโลกประดับกางเขนหมายถึงนิติบัญญัติ
มอสโคว (Moscow): เมืองหลวงของประเทศรัสเซีย ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ วัฒนธรรม การศึกษา ฯลฯ ตั้งอยู่ทางตะวันตกของประเทศ มีแม่น้ำมัสกวา (Moskva River) ไหลผ่าน เป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรป ทั้งทางด้านขนาดของพื้นที่และจำนวนประชากร โดยมีจุดศูนย์กลางอยู่ที่พระราชวังเครมลิน (The Moscow Kremlin) ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณจตุรัสแดง (Red Square) อันเป็นจุดเริ่มต้นของนักท่องเที่ยวแทบจะทุกคน..
จตุรัสเเดง (Red Square) เป็นลานกว้างที่รายล้อมไปด้วยสถานที่สำคัญต่างๆของกรุงมอสโคว เช่น พิพิธภัณฑ์แห่งชาติ (State Historical Museum), พิพิธภัณฑ์ศึกโบโรดิโน่ (Museum of Patriotic War), โบสถ์คาซาน (Cathedral of Our Lady of Kazan), สุสานเลนิน (Lenin Mausoleum), ห้างสรรพสินค้ากุม (GUM) และที่มีชื่อเสียงโด่งดัง เป็นสัญลักษณ์ที่รู้จักกันทั่วไปเลยก็คือ วิหารเซนต์บาซิล (St. Basil’s Cathedral) และพระราชวังเครมลิน (Moscow Kremlin Palace)
จัตุรัสแดงมีขนาดกว้าง 70 เมตร ยาว 695 เมตร มีขนาดพื้นที่รวม 23,100 ตารางเมตร จัตุรัสแดงอาจถือได้ว่าเป็นจัตุรัสกลางกรุงมอสโกและทั้งประเทศรัสเซียเพราะถนนสายสำคัญทุกสายของกรุงมอสโกจะวิ่งตรงออกจากจัตุรัสแดงแห่งนี้ ชื่อจัตุรัสแดงมักเข้าใจผิดว่า คำว่า “แดง” ในชื่อจัตุรัส มาจากสีของพรรคคอมมิวนิสต์ หรือสีของอิฐในบริเวณนั้นที่เป็นสีแดง แต่แท้จริงแล้วชื่อจัตุรัสแดง มาจากภาษารัสเซียคำว่า красный (krásnyj) ซึ่งในภาษารัสเซียดั้งเดิมมีความหมายว่า สวยงาม ในขณะที่ภาษารัสเซียสมัยใหม่ แปลว่าสีแดง
จัตุรัสแดงแห่งนี้ถือว่าเป็นเวทีของเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ของรัสเซีย ไม่ว่าจะเป็นงานเฉลิมฉลองทางศาสนาและทางการเมือง เป็นที่สวดมนต์สาธารณะและที่ประหารนักโทษในสมัยก่อนอีกด้วย ปัจจุบันได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวของคนจากทั่วทุกมุมโลกและยังใช้ในการเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสต่างไม่ว่าจะเป็น วันขึ้นปีใหม่ วันชาติ วันแรงงานและวันระลึกสงครามโลกครั้งที่ 2 และเคยใช้เป็นที่จัดการแสดงคอนเสิร์ตใหญ่ๆด้วย
เริ่มต้นกันที่ด้านทิศเหนือของจตุรัสเเดง เป็นที่ตั้งของ Manezhnaya Square ซึ่งเป็นจตุรัสกลางเมืองที่สำคัญอีกเเห่ง ในบริเวณนี้เป็นที่ตั้งของ พิพิธภัณฑ์แห่งชาติ (State Historical Museum) ซึ่งภายในจัดแสดงวัตถุมีค่าที่เกี่ยวข้องกับประเทศรัสเซียจำนวนมากมาย
อนุสาวรีย์ Marshal Georgy K. Zhukov นายพลคนสำคัญของรัสเซียที่นำกองทัพแดงของโซเวียตเข้าพิชิตเบอร์ลินในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ส่วนสัตว์ที่นอนหงายกางปีกอยู่ใต้เท้าม้าคือนกอินทรีย์ซึ่งเป็นสัตว์สัญลักษณ์ในธงชาติเยอรมันนี
ด้านซ้ายมือของพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ (State Historical Museum) คือ พิพิธภัณฑ์สงคราม 1812 (Museum of Patriotic War of 1812) ซึ่งจัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 1801 ที่ยังไม่ได้มีความบาดหมางใดๆ ต่อกัน จนกระทั่งในปี 1812 ที่นโปเลียนยกทัพมาตีรัสเซีย และพ่ายแพ้กลับไป ผ่านทางภาพวาดสีน้ำมัน ของใช้ และอาวุธสงครามที่ยังคงเก็บรักษาไว้
ระหว่างพิพิธภัณฑ์แห่งชาติและพิพิธภัณฑ์สงคราม 1812 เป็นซุ้มประตูทางเข้าไปสู่จตุรัสเเดง เรียกว่า Resurrection Gate
Chapel of Iberian Icon of Our Lady เป็นโบสถ์ขนาดเล็กมาก ตั้งอยู่ที่ฐานของประตูทางเข้าจัตุรัสแดง
Point of Zero หรือหลักกิโลเมตรที่ศูนย์ของมอสโคว์ อยู่ด้านหน้าโบสถ์ Iberian Chapel
เมื่อเดินผ่านซุ้มประตูเข้ามา ด้านซ้ายมือจะพบกับ Kazan Cathedral เป็นโบสถ์รัสเซี่ยนออร์โธดอกซ์ขนาดไม่ใหญ่มาก
ถัดจากโบสถ์คาซาน จะเห็นอาคารที่มีสถาปัตยกรรมเก่าแก่ที่มีความยาวไปตามแนวเกือบจะสุดจตุรัสแดง นี่คือ ห้างกุม (GUM) ห้างสรรพสินค้าที่มีชื่อเสียงและเก่าแก่ที่สุดของกรุงมอสโคว เปิดมาตั้งเเต่ปี ค.ศ.1893 มีความสวยงามและโดดเด่นมาก ลักษณะเป็นอาคารสูง 3 ชั้น ภายในหลังคาเป็นกระจกโค้งใสพาดบนโครงเหล็ก มีร้านค้าร้านอาหารทันสมัยเปิดให้บริการมากมายกว่า 200 ร้าน
พิพิธภัณฑ์เเห่งชาติ เมื่อมองจากภายในจตุรัสเเดง
Lobnoye Mesto: ที่ด้านใต้ของจตุรัสเเดง เกือบปลายสุดของห้างกุม ใกล้กับวิหารเซ้นต์บาซิล มีสิ่งก่อสร้างด้วยหินและอิฐ ลักษณะเป็นเเท่นรูปวงกลมขนาด 13 เมตร ตามประวัติเล่ากันว่าสร้างขึ้นตั้งเเต่ปี ค.ศ.1530 สำหรับเจ้าชายหรือพระเจ้าซาร์ใช้เป็นที่ประกาศพระบรมราชโองการต่อผู้ที่มาเข้าเฝ้า
ด้านใต้สุดของจตุรัสเเดงคือที่ตั้งของ วิหารเซนต์บาซิล (Saint Basil’s Cathedral) อันโด่งดังและเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก ด้วยรูปทรงโดดเด่นสวยงามและสะดุดตา สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าอีวานที่ 4 ในปี ค.ศ.1555-1561 เพื่อเฉลิมฉลองชัยชนะต่อชาวตาตาร์ (มองโกล) ที่เมืองคาซาน ตัววิหารจะมีหอสวด 9 หอ โดยมีโดมสูงสุดตรงกลาง และมีอีก 8 โดมอยู่รายรอบ
สถานที่สำคัญและยิ่งใหญ่อีกเเห่งหนึ่งของกรุงมอสโคว โดยกินพื้นที่ด้านขวามือทั้งหมดของจตุรัสเเดง ก็คือที่ตั้งของ พระราชวังเครมลิน (Moscow Kremlin Palace)
สุสานเลนิน (Lenin Mausoleum): แท่นสีแดงขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ด้านข้างกำเเพงของพระราชวังเครมลิน เป็นสถานที่เก็บรักษาศพของ วลาดีมีร์ เลนิน (Vladimir Lenin) ผู้นำนักปฏิวัติมาร์กซิสคนแรกของสหภาพสาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวียต หัวหน้าพรรคบอลเชวิก(พรรคคอมมิวนิสต์) นายกรัฐมนตรีคนแรกและเป็นเจ้าของแนวคิดส่วนใหญ่ในลัทธิเลนิน สร้างขึ้นในปี 1930
หลังจากเดินเที่ยวชมภาพรวมต่างๆ ของจตุรัสเเดงกันแล้ว เราจะซื้อตั๋วเข้าไปเยี่ยมชมสถานที่ต่างๆ กันอย่างละเอียดในวันต่อไป …. \O_O/