เกาะเต่าเป็นเกาะเล็กๆที่สามารถท่องเที่ยวให้ทั่วได้ภายใน 2-3 วัน พื้นที่ส่วนใหญ่ของเกาะเป็นภูเขา มีพื้นราบเพียงประมาณ 30% มีชายหาดที่มีความสวยงาม ทรายสะอาดบริสุทธิ์ สลับกับโขดหินรูปทรงแปลกตากระจายอยู่รอบเกาะ เเต่พื้นที่ที่เป็นชุมชนหนาเเน่นที่สุดจะอยู่ทางด้านตะวันตก เนื่องจากสามารถหลบคลื่นลมในช่วงฤดูมรสุมได้
คนในพื้นที่เล่าให้ฟังว่า ในสมัยก่อนที่นี่เคยเป็นที่วางไข่ของเต่าเป็นจำนวนมาก จึงเป็นที่มาของการขนานนามว่า “เกาะเต่า” นั่นเอง
แหล่งท่องเที่ยวบนเกาะเต่าส่วนใหญ่จะเป็นหาดต่างๆและจุดชมวิวบนเขา ซึ่งมีอยู่กระจายรอบเกาะ การมีพาหนะเดินทางจึงค่อนข้างจำเป็น ปัจจุบันถนนสายหลักบนเกาะส่วนใหญ่จะเป็นถนนคอนกรีต มีความกว้างไม่มากนักและมักจะไม่มีไหล่ทางสำหรับคนเดิน มีความลาดชันอยู่บ้างในบางช่วง ผู้คนส่วนใหญ่รวมไปถึงนักท่องเที่ยวจะใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะหลักในการเดินทาง
สำหรับนักท่องเที่ยว มีบริการให้เช่ารถจักยานยนต์ (สภาพใหม่, เกียร์อัตโนมัติ) โดยมีราคาอยู่ที่เพียงประมาณคันละ 200 บาทต่อวันเท่านั้น เเต่ต้องระวังเรื่องการมีอุบัติเหตุเฉี่ยวชน ซึ่งเล่ากันว่าค่าเคลมการเสียหายค่อนข้างสูง เเนะนำว่าควรเช่ากับทางที่พักหรือโรงแรมที่เราอยู่ การตกลงพูดคุยน่าจะสะดวกและเป็นกันเองมากกว่า ข้อแนะนำอีกอย่างหนึ่งคือให้ใช้โทรศัพท์มือถือของเราถ่ายวิดิโอรอบรถไว้ในขั้นตอนการตรวจรับ เพื่อป้องกันปัญหาในกรณีที่มีการเคลมความเสียหายเกิดขึ้น
หาดทรายรี
ตั้งอยู่ห่างจากท่าเรืออ่าวแม่หาดไปทางเหนือประมาณ 1.4 กิโลเมตร เป็นหาดที่ยาวที่สุดของเกาะเต่า โดยมีความยาวประมาณ 1.85 กิโลเมตร กินพื้นที่ส่วนใหญ่ของชายฝั่งด้านตะวันตก เป็นหาดยอดนิยมและคึกคักที่สุดของเกาะเต่า ที่นี่เป็นแหล่งรวมที่พัก โรงเรียนสอนดำน้ำ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ บาร์ สถานบันเทิง และร้านค้าต่างๆมากมาย ชายหาดที่กว้างยาวและน้ำทะเลที่ใสตื้นของหาดทรายรีเหมาะสำหรับครอบครัวและเด็กๆ ในยามเย็นนักท่องเที่ยวนิยมมาชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามกันที่นี่
จุดชมวิวจอห์น-สุวรรณ (John-Suwan Viewpoint)
ตั้งอยู่บนปลายแหลมทางใต้สุดของเกาะเต่า หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า แหลมตาโต๊ะ ความพิเศษที่ไม่เหมือนจุดชมวิวอื่นๆบนเกาะนี้คือเป็นจุดชมวิวแบบพาโนรามา 360 องศาที่สามารถมองเห็นวิวทะเลสวยๆของเกาะเต่าได้ทั้ง 2 ด้าน โดยจะมองเห็นอ่าวโฉลกบ้านเก่าทางทิศตะวันตก และอ่าวเทียนออกทางทิศตะวันออกได้พร้อมกัน มีเรือกไม้สีเขียวขจีสดชื่นของเกาะเต่าอยู่ด้านหลังไล่ไปจนถึงทิวเขาทางทิศเหนือของเกาะ ในวันที่น้ำทะเลใสจะมองเห็นแนวปะการังน้ำตื้นของทั้งสองอ่าวได้อย่างชัดเจนอีกด้วย
เล่ากันว่า จุดชมวิวแห่งนี้ถูกค้นพบโดยนายสุวรรณซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินบริเวณนี้และเพื่อนชาวต่างชาติชื่อจอห์น ในระหว่างที่ทั้งสองขึ้นมาบนเขาเพื่อหาไม้สำหรับสร้างร้านอาหาร
จุดชมวิวจอห์น-สุวรรณอยู่ห่างจากท่าเรือเเม่หาดประมาณ 3 กิโลเมตร เส้นทางเข้าถึงเป็นถนนซีเมนต์ จอดมอเตอร์ไซด์ จ่ายเงินค่าเข้าคนละ 50 บาท แล้วเดินตรงไป ทางขึ้นจุดชมวิวจะอยู่เลยถนนเข้าฟรีดอมบีชรีสอร์ทไปเล็กน้อย มีป้ายบอกชัดเจน
จากจุดนี้จะเป็นทางเดินขึ้นเขา ในช่วงเเรกๆจะเป็นป่าโปร่ง เดินไปสักพักจะมีจุดถ่ายรูปที่มองเห็นต้นมะพร้าวเขียวขจี โดยมีทะเลสีครามเป็นฉากหลัง
หลังจากนั้นเส้นทางจะเริ่มสูงชันมากขึ้น ต้องปีนป่ายหินก้อนใหญ่ๆในบางช่วง เเต่มีเชือกให้จับตลอดทาง ทำให้การขึ้น-ลงง่ายขึ้นเยอะ ใช้เวลาประมาณ 20 นาที หลังจากผ่านซอกหินเเคบๆเข้าไป ก็จะถึงยอดเขาอันเป็นจุดชมวิวอะเมซิ่งนี้
บริเวณจุดชมวิวเป็นโขดหินก้อนใหญ่ มีพื้นที่ไม่มากนัก เเต่วิวสวย ลมเย็น ทำให้รู้สึกสดชื่น หายเหนื่อย คุ้มค่ากับการที่ต้องดั้นด้น ปีนป่ายขึ้นมาถึงที่นี่.. ^^
ลงจากจุดชมวิว เราเดินตามป้ายบอกทางที่ชี้ไปยังฟรีด้อมบีช (Freedom Beach) ซึ่งอยู่ห่างออกไปเพียง 50 เมตร
ฟรีด้อมบีช (Freedom Beach) เป็นหาดเล็กๆ เงียบสงบ เหมาะสำหรับไปนอนเล่นพักผ่อน น้ำทะเลที่นี่ใส เหมาะแก่การว่ายหรือดำน้ำชมปะการังน้ำตื้นซึ่งอยู่ใกล้ๆกับหาด ที่นี่ยังเป็นจุดที่มองเห็น ‘หินตาโต๊ะ’ ตรงปลายแหลมได้ใกล้ที่สุด
หินตาโต๊ะ เป็นกลุ่มหินหลายก้อนที่เรียงกันดูคล้ายผู้ชายนั่ง ส่วนหินยายแมะดูคล้ายผู้หญิง นอกจากความสวยงามและความมหัศจรรย์ของธรรมชาติแล้ว ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นหินศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพบูชาและยังเป็นสถานที่สำคัญของเกาะ
จากหาดฟรีด้อมบีชเรายังสามารถเดินไปเที่ยวหาดตาโต๊ะใหญ่ที่อยู่ใกล้เคียง โดยเดินตามทางเดินคอนกรีตเล็กๆ เลาะชายฝั่ง และถ้าในช่วงที่น้ำลงเรายังสามารถเดินต่อไปถึงอ่าวโฉลกบ้านเก่าที่อยู่ถัดไปได้ด้วย
จุดชมเกาะนางยวน
ถนนสายหลักจากท่าเรืออ่าวเเม่หาดที่ผ่านหาดทรายรี จะทอดยาวไปจนสุดปลายถนนด้านทิศเหนือ ซึ่งเป็นที่ตั้งของ ดุสิตบัญชารีสอร์ท ที่นี่เป็นจุดที่สามารถเห็นเกาะนางยวนได้ใกล้ที่สุด
แชร์เรื่องนี้: