หลังจากพักเอาแรงมาหนึ่งคืน เราไปตะเวณเที่ยวชมเมืองฮานอยกันต่อ วันนี้เราจะไปตั้งต้นกันที่ทะเลสาบโฮไต ซึ่งเป็นทะเลสาบที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือและมีขนาดใหญ่ที่สุดในฮานอย มีโรงเเรม ร้านค้า-ร้านอาหารตั้งอยู่ในย่านนี้มากมาย
เจดีย์เตริ่นกว็อก (Tran Quoc Pagoda) ตั้งอยู่ริมทะเลสาบโฮไต เป็นเจดีย์ที่เก่าแก่ เป็นงานศิลปะผสมของจีน เวียดนามและญี่ปุ่น ทั่วบริเวณมีบรรยากาศที่ร่มรื่น เจดีย์เป็นสีชมพูไล่ระดับเป็นชั้นๆ ขึ้นไปประมาณ 10 ชั้น แต่ละชั้นมีพระพุทธรูปสีขาวประดิษฐานอยู่ในช่องรอบเจดีย์ และเป็นที่บรรจุอัฐิของพระที่เป็นเจ้าอาวาสของวัดแห่งนี้
ทำเนียบประธานาธิบดี ( Presidential Palace): เป็นอาคารทรงโคโลเนียลสีเหลือง ที่ทางฝรั่งเศสสร้างขึ้นในปีค.ศ. 1901 เพื่อใช้เป็นที่ทำการของผู้สำเร็จราชการชาวฝรั่งเศสแห่งอินโด-ไชน่า ที่นี่ยังเป็นสถานที่ทำงานของประธานาธิบดีโฮจิมินห์เมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่ด้วยเช่นกัน ปัจจุบันเป็นที่รับแขกเมืองของเวียดนาม
สุสานโฮจิมินห์ (Ho Chi Minh Mausoleum): เป็นสถานที่เก็บศพของท่านโฮจิมินห์ (อดีตประธานาธิปดีอันเป็นที่เคารพรักของชาวเวียดนาม) ตั้งอยู่บนถนนเดียนเบียนฟู (Dien Bien Phu) บริเวณจัตุรัสบาดิงห์ (Ba Dinh) สุสานแห่งนี้ได้สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1973 เป็นอาคารหินอ่อนและหินแกรนิตรวมถึงไม้เนื้อดีจากทั่วประเทศ เป็นอาคารที่โดดเด่นและงามสง่ามาก ด้านในจะมีศพของท่านโฮจิมินห์ ซึ่งอาบน้ำยาอยู่ในโลงแก้ว ข้างในสุสานยังมีทหารในชุดเครื่องแบบเต็มยศสีขาวยืนถือดาบปลายปืนยืนรักษาการณ์อยู่ตลอดเวลา ด้านหลังมีสวนสาธารณะที่เงียบสงบร่มรื่น มีสระน้ำเล็กๆ และบ้านไม้ที่สร้างบนเสาสูงซึ่งเชื่อกันว่าเคยเป็นที่อยู่ของท่านโฮจิมินห์เมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่
National Assembly Building หรืออาคารรัฐสภาของเวียดนาม อยู่ฝั่งตรงข้ามกับสุสานโฮจิมินห์
พิพิธภัณฑ์โฮจิมินห์ (Hi Chi Minh Museum): อยู่ในละแวกเดียวกันกับสุสานโฮจิมินห์ รูปแบบเป็นอาคารสมัยใหม่ขนาดใหญ่ มีการจัดแสดงนิทรรศการมากมาย เกี่ยวกับความเป็นมา ประวัติศาสตร์ในสมัยสงคราม โดยมีการจัดแบ่งเป็นห้องต่างๆ จัดแสดงงานศิลปะ และภาพถ่ายต่างๆ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่อดีตประธานาธิบดีโฮจิมินห์เคยทำไว้เมื่อครั้งที่ยังมีชีวิตอยู่
เจดีย์เสาเดียว (One Pillar Pagoda): อยู่ด้านข้างพิพิธภัณฑ์โฮจิมินห์ เป็นเจดีย์ขนาดเล็กที่ตั้งอยู่บนเสาเพียงต้นเดียวกลางสระบัว มีอายุมากกว่า 400 ปี โดยมีตำนานเล่าขานว่า กษัตริย์ลี้ไถ่โตทรงกลัดกลุ้มเนื่องจากยังไม่มีรัชทายาทสืบสันติวงศ์ จนกระทั่งคืนหนึ่งพระองค์ก็ได้สุบิน(ฝัน)เห็นเจ้าแม่กวนอิมประทับอยู่ในดอกบัว จากนั้นจึงส่งทารกเพศชายในอ้อมกอดให้พระองค์ ไม่นานพระชายาของพระองค์ก็ทรงให้กำเนิดพระโอรสจริงๆ พระองค์จึงโปรดให้สร้างเจดีย์เสาเดียวนี้ขึ้นเพื่อถวายเป็นพระบูชาแด่องค์เจ้าแม่กวนอิม เจดีย์แห่งนี้มีชื่อเสียงมากในเรื่องการมาอธิษฐานขอพรให้ได้ลูกชาย
วัดเล็กๆในบริเวณใกล้เคียงกัน
วิหารวรรณกรรม (Temple of Literature): หรือวัดจอหงวน เป็นวัดโบราณที่มีประวัติความเป็นมาอย่างยาวนานเกือบพันปี สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าหลีไทโต เพื่ออุทิศให้แก่ท่านศาสดาขงจื้อ มีสถาปัตยกรรมแบบจีนที่สวยงาม เคยเป็นโรงเรียนของพวกขุนนางและเป็นสถานที่ใช้สอบจองหงวนในสมัยโบราณ บริเวณโดยรอบมีบ่อน้ำและต้นไม้ใหญ่ร่มรื่นเขียวชอุ่ม มีศาลเทพเจ้าขงจื้อและมีแผ่นหินจารึกชื่อจอหงวนในอดีต ปัจจุบันได้เป็นวัดที่นักเรียนนักศึกษาชาวเวียดนามมักจะมามาขอพรในการเรียนการสอบ เป็นสถานที่รวบรวมเรื่องราวทางประวัติศาสตร์และการศึกษาของเวียดนามที่สำคัญแห่งหนึ่งในเมืองฮานอย
ป้อมประตูเมืองเก่า (Doan Mon Gate): เป็นป้อมกำแพงเก่าของพระราชวังเมืองทังลอง (ชื่อเดิมของฮานอย) ได้รับความเสียหายไปมากจากการรุกรานโจมตีของฝรั่งเศสในสมัยปลายศตวรรติที่ 19 ได้รับการอนุลักษณ์และประกาศให้เป็นมรดกโลก (World Cultural Heritage Site) ในปี 2010
ป้อมประตูเก่าด้านทิศเหนือ สภาพดั้งเดิมดูขลังกว่าส่วนที่เป็นพิพิธภัณฑ์
จบการตระเวณเที่ยวชมฮานอยแบบรวบรัด พรุ่งนี้เราจะมุ่งหน้าสู่ไฮไล้ต์ของทริปนี้.. ซาปา เมืองแห่งขุนเขาและนาข้าว \OO/
แชร์เรื่องนี้: