หลังจากท่องเที่ยวโดโลไมท์ด้านตะวันตกไปสองวันแล้ว วันนี้เราจะย้ายจากเมือง Ortisei ไปปักหลักต่อที่เมือง Cortina D’Ampezzo ซึ่งเป็นเมืองศูนย์กลางด้านตะวันออกของโดโลไมท์ เส้นทางจาก Ortisei มุ่งสู่เมือง Cortina มีระยะทางประมาณ 74 กิโลเมตร เป็นถนนราดยางแบบสองเลนขนาดไม่ใหญ่นักเเต่มีสภาพดี เส้นทางนี้จะตัดผ่านชายขอบของอุทยานแห่งชาติ Parco Naturale หรือ Puez Odle Naturpark จึงต้องขึ้นๆลงๆไปตามภูมิประเทศที่เป็นภูเขาอยู่ตลอดเวลา การขับรถจึงทำความเร็วไม่ได้มากนัก แต่ก็ถือว่าเป็นเส้นทางท่องเที่ยวที่น่าสนใจเพราะตลอดทางจะมีวิวสวยๆให้จอดถ่ายรูปอยู่เป็นระยะๆ ควรเผื่อเวลาเดินทางไว้สัก 2-3 ชั่วโมง เราบอกตัวเองว่า ความสุขคือการเดินทาง มิใช่จุดหมายปลายทาง… ^^
เราขับผ่าน Santa Cristina Val Gardena และ Selva di Val Gardena อันเป็นเมืองรีสอร์ทเล็กๆที่มีชื่อเสียงอีกสองเเห่งของหุบเขา Dolomites Val Gardena นอกจาก Ortisei
ประมาณ 20 กิโลเมตรจะถึง ปาสโซ่ การ์เดน่า (Passo Gardena) หรือ Gardena Pass ซึ่งเป็นชื่อเรียกเส้นทางคดเคี้ยวผ่านภูเขาในเส้นทางสาย Great Dolomite Road ที่งดงามอลังการณ์ด้วยทิวทัศน์ทุ่งหญ้าและภูเขาสูงใหญ่แห่งเทือกเขาโดโลไมท์ อยู่สูง 1,235 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล
มีจุดชมวิวซึ่งเป็นเนินเตี้ยๆ (ตั้งอยู่ใกล้กับ Rifugio Frara) สามารถจอดรถได้ที่ลานซึ่งอยู่ห่างออกไปไม่ไกล
เราออกเดินทางต่อ ขับรถไปอีกสักพักก็เข้าเขต Corvara in Badia อันเป็นเมืองรีสอร์ทอีกเเห่ง ซึ่งตั้งอยู่ห่างจาก Cortina D’Ampezzo ทางทิศตะวันตกประมาณ 40 กิโลเมตร
Cortina D’Ampezzo เป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่และดูทันสมัยกว่า Ortisei ตั้งอยู่ห่างจากเมืองเวนิสไปทางเหนือประมาณ 160 กิโลเมตร เป็นเมืองศูนย์กลางการท่องเที่ยวทางด้านตะวันออกของโดโลไมท์ เคยใช้เป็นสถานที่ในการจัดการเเข่งขันกีฬาโอลิมปิคฤดูหนาวในปี ค.ศ.1956 (จะจัดอีกครั้งในปี 2026 โดยเป็นเจ้าภาพร่วมกับเมืองมิลาน) มีภาพยนตร์ที่ถ่ายทำในเมืองนี้ในอดีตหลายเรื่อง เช่น The Pink Panther (1963), เจมส์บอนด์ 007 ตอน For Your Eyes Only (1981) และ Cliffhanger (1993)
เราพักที่เมืองนี้สองคืน เพื่อเดินทางไปตามสถานที่ท่องเที่ยวของโดโลไมท์ในเเถบนี้ อันได้เเก่ ทะเลสาบ Braies, ทะเลสาบ Misurina และการเดินเทรลเพื่อเที่ยวชมภูเขาสามยอดที่ยิ่งใหญ่ หรือ Tre Cime อันเป็นไฮไล้ท์
Lake Braies หรือ Lago di Braies (ในภาษาอิตาลี, Pragser Wildsee – ภาษาเยอรมัน) เป็นทะเลสาบที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในเเถบโดโลไมท์ตะวันออก ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ Fanes-Sennes-Prags Nature Park ที่ความสูง 1,469 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ด้วยทิวทัศน์ที่สวยงาม น้ำในทะเลสาบใสสะอาดสี Turqouise (ฟ้าเขียว) โดยมีภูเขา Seekofel เป็นฉากหลัง ทำให้ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก
การเดินทาง: ขับรถจากเมือง Cortina D’Ampezzo ไปทางเหนือ ระยะทาง 45 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 50 นาที มีลานจอดรถขนาดใหญ่ใกล้กับทะเลสาบ
ที่ริมทะเลสาบมีโรงเเรมเก่าเเก่ที่สร้างตั้งเเต่ปี ค.ศ.1899 ชื่อ Hotel Lago di Braies ในช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่นี่เคยใช้เป็นที่พักของตัวประกัน 139 คนซึ่งล้วนเป็นบุคคลสำคัญจาก 17 ประเทศในยุโรปหลังจากได้รับการปล่อยตัวจากค่ายกักกันของนาซี
ถ้ามีเวลาสามารถเดินเที่ยวได้รอบทะเลสาบ โดยใช้เวลาราว 1.5 ถึง 2 ชั่วโมง
ภาพของ Lago di Braies จากบนเขา Seekofel
กิจกรรมยอดฮิตอีกอย่างของนักท่องเที่ยวที่นี่คือ การเช่าเรือเเคนูพายเล่นในทะเลสาบ โดยมีราคาชั่วโมงละ 28 ยูโร
ปรกติเเล้วน้ำในทะเลสาบจะมีสีฟ้าเขียวสดใสเป็นพิเศษ โดยเฉพาะในวันที่อากาศดี ฟ้าใส และมีเเดดจ้า เสียดายว่าในวันที่เราไปอากาศครึ้ม เมฆเต็มท้องฟ้าเลย การวางแผนมาเที่ยวจึงควรคำนึงถึงปัจจัยข้อนี้ด้วย.. ^^
ขากลับเราเเวะทะเลสาบ Misurina หรือ Lago di Misurina ซึ่งเป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ อยู่ ห่างจากเมือง Cortina D’Ampezzo ไปทางตะวันออกประมาณ 15 กิโลเมตร ที่นี่เคยใช้เป็นสถานที่จัดการเเข่งขันสเก็ตน้ำเเข็งประเภทความเร็ว (Speed Skating) ของกีฬาโอลิมปิคฤดูหนาว (Winter Olympics) ในปี ค.ศ.1956 ด้วย
Lago di Misurina ตั้งอยู่สูงระดับ 1,754 เมตรจากระดับน้ำทะเล ความยาวรอบทะเลสาบ 2.6 กิโลเมตร และมีความลึกสูงสุดประมาณ 5 เมตร รอบๆบริเวณมีโรงเเรมขนาดใหญ่ตั้งอยู่หลายเเห่ง สะท้อนถึงความนิยมของนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี..
เช้าวันรุ่งขึ้นเราเเวะไปเยี่ยมเยียนทะเลสาบ Misurina อีกครั้ง เนื่องจากเป็นทางผ่านของเส้นทางขับรถไปยัง Tre Cime เนื่องจากอากาศที่เเจ่มใสมีเเดดจ้า ทำให้ภาพบรรยากาศของทะเลสาบดูสดใสกว่าเมื่อวาน (ที่ฟ้าครึ้มไม่มีเเดด) เยอะเลย… \O_O/