สวิตเซอร์เเลนด์น้อยแห่งเสฉวนตะวันตก
ปี้เผิงโกว (毕 棚 沟) – Bipenggou เป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยม เป็นพื้นที่สาธิตการท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่สำคัญของมณฑลเสฉวน ได้รับฉายา “Little Switzerland” แห่งเสฉวนตะวันตก เนื่องจากมีทิวทัศน์ที่งดงามราวกับยุโรป โดยเฉพาะในช่วงใบไม่เปลี่ยนสี-ฤดูหนาว (อันนี้คอนเฟิร์ม.. ที่นี่วิวสวยจริงอะไรจริง^^)
ปี้เผิงโกวมีสถานะเป็น อุทยานแห่งชาติระดับ AAAA เป็นหุบเขาที่ตั้งอยู่ทางด้านทิศเหนือของกลุ่มเทือกเขาอันเป็นที่ตั้งของอุทยานเเห่งชาติซื่อกูเหนียงซาน (ภูเขาสี่ดรุณี) มีความสูงของยอดเขา 2,915 ถึง 5,922 เมตรจากระดับน้ำทะเล พื้นที่ของอุทยานประมาณ 613.8 ตารางกิโลเมตร ภูมิประเทศธรรมชาติในหุบเขาบริสุทธิ์และเรียบง่าย ประกอบไปด้วยทะเลสาบ ป่าดงดิบ ลำธาร น้ำตก ทุ่งหญ้าอัลไพน์ ป่าหลากสี ฯลฯ โดยมียอดเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะเป็นฉากหลัง ที่สำคัญสามารถเที่ยวได้สะดวก มีรถบัสเวียน-รถกอล์ฟไฟฟ้าของอุทยานคอยให้บริการ เส้นทางเดินชมธรรมชาติก็จัดทำไว้เป็นอย่างดี
มีคนจำนวนไม่น้อยตั้งคำถามว่า ระหว่างอุทยานแห่งชาติซื่อกูเหนียงซาน และ ปี้เผิงโกว ที่ไหนสวยกว่ากัน? ที่ไหนน่าเที่ยวกว่ากัน? อันที่จริงเราคิดว่าเอาไปเปรียบเทียบกันยากนะ เพราะสถานที่แต่ละแห่งต่างก็มีเอกลักษณ์ จุดเด่น-จุดด้อย ฯลฯ แตกต่างกันไป จริตและรสนิยมของเเต่ละคนก็เเตกต่างกันไป ถ้าเปลี่ยนเป็นพูดว่า เราชอบที่ไหน? ก็น่าจะใกล้เคียงกว่า (หรือเปล่า..)
ในความเห็นของเรา ถ้าใครมีเวลาก็ควรหาโอกาสไปเที่ยวชมเสียทั้งสองแห่งเลย ไหนๆก็ข้ามน้ำข้ามทะเล ลางานมาเที่ยวเเล้วทั้งที^^ ในด้านความสะดวกสบายของการเดินทางเที่ยวชม ทั้งสองแห่งต่างมี(ดี)พอๆกัน เเต่อุทยานฯซื่อกูเหนียงซานจะมีขนาดพื้นที่ใหญ่กว่า ทัศนียภาพจึงหลากหลายกว่า ขณะที่ปี้เผิงโกวจะได้เห็นภูเขาในระยะใกล้-ประชิดตัว จึงได้อารมณ์ความรู้สึกอลังการมากกว่า อย่างไรก็ตามโดยรวมก็ถือว่าสวยงามน่าประทับใจทั้งสองแห่ง.. 😀
การเดินทาง
อุทยานแห่งชาติปี้เผิงโกวอยู่ห่างจากเมืองเฉิงตูไปทางตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 220 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3-4 ชั่วโมงเศษๆ สามารถขึ้นรถบัสโดยสารประจำทางจากเมืองเฉิงตู สถานีฉาเตี้ยนจื่อ (茶店子车站) – Chadianzi Bus Station เส้นทางไปลงเมือง Lixian (理 县)
อีกวิธีคือใช้บริการรถบัสโดยสารที่ไปถึงยังหน้าอุทยานเลย (ดำเนินการโดยเอกชน) โดยสามารถ ซื้อตั๋วโดยสารแบบออนไลน์ ได้จากเว็บไซต์ของผู้ให้บริการ เช่น Trip.com, Klook, kkday ฯลฯ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สะดวกสบาย
ถ้ามีสมาชิกเพื่อนร่วมทาง 4-6 คน สามารถเช่ารถพร้อมคนขับจากเฉิงตู หรือจากซื่อกูเหนียงซานไปปี้เผิงโกว ซึ่งถือเป็นวิธีที่สะดวกและคุ้มค่า เพราะสามารถเเวะเที่ยวตามจุดต่างๆรายทางได้
ในกรณีเดินทางเเค่หนึ่งหรือสองคนหรือมีเวลาน้อย สามารถซื้อ เเพ็คเก็ตจอยทัวร์ (๋Joined Tour) ซึ่งมีทั้งแบบวันเดียวและหลายวัน จากเอเย่นต์ที่เมืองไทย เช่น เพจคนไทยพาเที่ยวเฉิงตู, เพจสะไภ้เฉิงตูพาเที่ยว, คุณ Kook Sunsanee ข้อดีคือสามารถมั่นใจได้ว่าจะไม่ถูกเท เพราะตัวเเทนที่เมืองไทยจะคอยดูเเลและช่วยประสานงาน (กับทางฝั่งทัวร์จีน) ให้กับเราด้วยจนจบ ติดขัดอะไรก็สามารถติดต่อทีมงานได้ตลอดเวลา
แพ็คเก็ตทัวร์รวมบริการรถมารับถึงหน้าโรงเเรมตอนเวลาตี 5 เพื่อพาไปขึ้นรถบัสที่จุดนัดหมาย
ผ่านจตุรัสเทียนฟู่ (Tianfu Square) ประมาณ 20 นาทีก็ถึงจุดหมายปลายซึ่งอยู่บริเวณถนนวงเเหวนที่ 3 ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเฉิงตู ใกล้กับโรงแรม Chengdu Guangyuan Hotel (成都广元宾)
จุดรวมพลเพื่อรอขึ้นรถบัสอยู่บริเวณริมถนน หน้าร้านหม้อไฟ 迎门口 老灶火锅 ที่นี่เป็นจุดรอขึ้นรถของเดย์ทัวร์ต่างๆสำหรับสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ทางตอนเหนือเฉิงตู เช่น อุทยานฯสี่ดรุณี (ซื่อกูเหนียงซาน), ปี้เผิงโกว ฯลฯ
บรรยากาศคึกคักครื้นเครง มีพ่อค้ามาตั้งแผงขายอาหารเช้าประเภทโจ๊ก-ซาลาเปา-น้ำเต้าหู้ด้วย
ประมาณหกโมงเช้า รถบัสก็ทะยอยเข้ามาจอดเพื่อรับลูกทัวร์ โดยมีจำนวนหลายคันมาก จึงจำเป็นต้องจดจำหมายเลขรถของเราให้ดี เพื่อจะขึ้นรถได้ถูกคัน..
ผู้โดยสารบนรถของเราส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน มีไก้ด์คอยดูแล-เช็คชื่อ และให้ข้อมูลต่างๆตลอดการเดินทาง (เป็นภาษาจีน)
รถจอดพักครั้งหนึ่งที่เมือง Wenchuan ได้มีโอกาสพบกับห้องน้ำในตำนาน (เสียที^^) จุดที่รถจอดเเวะเป็นร้านค้าขนาดใหญ่ มีของขายมากมาย (นักท่องเที่ยวก็มากด้วย รถบัสเกือบทุกคันจะเเวะจอดที่นี่หมด)
รู้สึกได้ว่าขึ้นมาอยู่บริเวณที่สูงขึ้น สังเกตได้จากตัวชี้วัดคือถุงขนมที่นำติดตัวมาด้วยมีสภาพบวมเป่งเลย 😛
ประมาณสิบโมงเช้าก็ถึงบริเวณหน้าอุทยาน ไก้ดประจำรถได้ช่วยเอาพาสปอร์ตของเราไปแลกเป็นตั๋วให้ เเต่ไม่ได้เข้าไปในอุทยานกับเราด้วย เพียงเเต่นัดเเนะเวลาให้กลับมาเจอกันที่รถในเวลาประมาณบ่ายสามโมง (มีเวลาเดินเที่ยวประมาณ 5 ชั่วโมง)
อุทยานแห่งชาติปี้เผิงโกว (毕 棚 沟 – Bipenggou)
ราคาตั๋วอุทยานปี้เผิงโกว ค่าเข้า 70 หยวน +60 ค่ารถบัสอุทยาน +30 +30 ค่ารถกอล์ฟไฟฟ้าอีกสองทอด รวมเป็น 190 หยวน สามารถจองซื้อออนไลน์ได้ที่ Trip.Com
จุดท่องเที่ยวหลักๆ ภายในอุทยานปี้เผิงโกวจะมีอยู่ 4 จุด แต่ละจุดมีเส้นทางเดินอย่างดี ส่วนมากจะเป็นทางราบ ระยะเวลาที่ใช้ในการเที่ยวชมประมาณ 4-6 ชั่วโมง แต่ถ้ามีเวลาเพียงพอ แนะนำให้วางแผนไปพักค้างคืนที่บริเวณหน้าอุทยาน แล้วเข้าไปเดินเที่ยวตั้งเเต่เช้าจะดีที่สุด
龙王海 (Long Wang Hai)
หลงหวังไห่ (龙王海) มีความหมายว่า ทะเลสาบเทพมังกร (Dragon King Lake) เป็นจุดเเรกที่รถบัสอุทยานจอดให้ลงเที่ยว ที่นี่เป็นทะเลสาบที่มีน้ำใสดุจดังกระจก ว่ากันว่าราชาแห่งมังกรอาศัยอยู่ที่ก้นทะเลสาบ อันเป็นที่มาของชื่อ “ทะเลสาบเทพมังกร”
หอนิทรรศการทรัพยากรระบบนิเวศ Bipenggou
ในช่วงที่เราไปเที่ยวเป็นฤดูใบไม้เปลี่ยนสีพอดี วิวที่เห็นต้นเมเปิ้ลสีเเดงและไม้ใบสีเหลืองสะท้อนกับผืนน้ำนั้น สวยงามราวกับภาพวาดสีน้ำมันหรือโปสเตอร์ท่องเที่ยวเลย^^
ทางเดินเที่ยวชม (Eco Route) จะเเบ่งทะเลสาบออกเป็นสองส่วน ด้านขวามือคือ ทะเลสาบหลงหวังไห่ (Long Wang Hai Lake) ซ้ายมือของทางเดินเป็นทะเลสาบขนาดเล็กที่ชื่อว่า ชิงฉวนหู (清泉湖) – Clear Spring Lake มีน้ำตกขนาดใหญ่ไหลลงมาจากด้านหนึ่งของทะเลสาบสู่เเอ่งน้ำด้านล่าง ถ้ามองจากระยะไกลน้ำในทะเลสาบจะเป็นสีเขียวจนดูเหมือนหยก เมื่อมองใกล้ๆจะเห็นน้ำใสนิ่งจนมองเห็นก้นทะเลสาบได้
เดินตามทางไปเรื่อยๆ จะถึงจุดขึ้นรถบัสอุทยานฯเพื่อไปยังจุดเเวะเที่ยวถัดไป
上海子(Shang Hai Zi)
ซั่งไห่จื่อ (上 海 子) – Shang Hai Zi) ที่นี่เป็นจุดสิ้นสุดของรถบัส อยู่ห่างจากหน้าอุทยานประมาณ 26 กิโลเมตร มีตึกบริการนักท่องเที่ยวและร้านค้า สามารถแวะทานข้าวหรือเข้าห้องน้ำได้ ก่อนที่จะขึ้นรถกอล์ฟไฟฟ้าเพื่อเดินทางต่อไปยังจุดท่องเที่ยวถัดไป (ทะเลสาบพันหยางไห่ 磐羊海 – Pan Yang Lake) ระยะทางประมาณ 4.5 กิโลเมตร ซึ่งใช้เวลาราว 10 นาที (หากเลือกเดินเองจะใช้เวลาประมาณ 45 นาที)
磐羊海 (Pan Yang Lake)
ทะเลสาบพันหยางไห่ (磐 羊 海) – Pan Yang Lake บางครั้งเรียกว่า Argali Lake วิ่งมาได้สักพัก รถกอล์ฟจะจอดเเวะให้ลงแล้วไปดักรอเราข้างหน้า เดินไปทางด้านซ้ายมือ จะเป็นเส้นทางเดินชมวิวซึ่งมีทัศนียภาพที่สวยงามมม…มากก…. นักท่องเที่ยวคราคร่ำ-จอเเจด้วยความตื่นตาตื่นใจ เเต่ให้เดินต่อไปเรื่อยๆ ยังมีมุมสวยงามรอเราอยู่อีกมากมายทั่วทั้งบริเวณนี้
หลังจากนั้นก็ไปต่อคิวขึ้นรถกอล์ฟเพื่อเดินทางต่อ
ลงรถกอล์ฟแล้วต้องเดินไปอีกเล็กน้อยจึงจะถึงทะเลสาบพันหยางไห่
จากทะเลสาบพันหยางไห่ เดินต่ออีกประมาณ 300 เมตรไปขึ้นรถกอล์ฟไฟฟ้าท่อนที่ 2 ตรงจุด 月 亮 湾 (Moon Bay) เพื่อเดินทางไปยัง เยี่ยนจื่อเหยียน (燕 子 岩) – Yan Zi Yan ระยะทางอีก 4.5 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 10 นาที (หากเดินเท้าจะใช้เวลา 1 ชั่วโมง)
ในช่วงฤดูร้อนมีการล่องเเพยางได้ด้วย
燕子岩 (Yan Zi Yan)
ก่อนถึงเยี่ยนจื่อเหยียน รถเเวะให้ลงเที่ยวชมวิวอีกจุดหนึ่งที่ หงเหยียนปอ (紅 岩 坡) – Red Rock Slope ที่นี่ก็เป็นจุดถ่ายภาพที่สวยตะลึงอีกแห่ง
ไม่ว่าจะมาไกลเเค่ไหน จุดทิ้งขยะและห้องน้ำยังตามมาให้บริการเสมอ เเหล่งท่องเที่ยวระดับ AAAA ไม่ใช่ได้มาเปล่าๆนะเอ้อ.. ชอบๆๆ
ขึ้นรถกอล์ฟที่มาดักรออยู่แล้วไปต่อ
เยี่ยนจื่อเหยียน (燕子岩) – Yan Zi Yan หรือในชื่อภาษาอังกฤษ Swallow’s Stone Nest Scenic Area เป็นปลายทางของรถกอล์ฟช่วงที่ 2 ตั้งอยู่ที่ความสูง 3,837 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล จุดนี้จะมองเห็นวิวภูเขาหิมะได้แบบใกล้ชิดมากๆ นอกจากนี้ยังจะได้เพลิดเพลินกับทัศนียภาพสวยงามของทุ่งหญ้ากว้าง ลำธาร และน้ำตก ฯลฯ อีกด้วย
คำแปลข้อมูลของ 燕子岩 – Swallow’s Stone Nest Scenic Area จากป้าย: พื้นที่ชมทัศนียภาพ รังหินนกนางแอ่น (燕子岩) อยู่ห่างจากหน่วยบริการ ซั่งไห่จื่อ (上 海 子) 10 กิโลเมตร และตั้งอยู่บนระดับความสูงจากน้ำทะเล 3,837 เมตร ภายในพื้นที่มีทัศนียภาพธรรมชาติอันสวยงามและทัศนียภาพทางนิเวศน์ที่สวยงามไร้ที่ติ เช่น ป่าดึกดำบรรพ์ ทะเลสาบและทุ่งหญ้าอัลไพน์ น้ำตก ยอดเขาสูงชัน และโขดหิน ฯลฯ ภูเขาที่สง่างามมีหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่กระต่ายหยกไปจนถึงลิงหิน รวมถึงภูเขาที่ดูเหมือนพระสนมเอก อู่เจ๋อเทียน แห่งราชวงศ์ถังซึ่งนั่งอยู่บนยอดเขาพร้อมกับมวยผมอันเป็นเอกลักษณ์บนศีรษะและชุดยาวอันเป็นเอกลักษณ์ของยุคนั้น เมื่อเสริมด้วยท้องฟ้าสีครามและเมฆสีขาว ภูเขาเหล่านี้ดูสูงตระหง่านอย่างโดดเด่น น้ำตกที่รังหินของนกนางแอ่นมีความสูงประมาณ 500 เมตรและกว้างประมาณ 12 เมตร เป็นหนึ่งในน้ำตกที่สูงที่สุดของจีนที่ขึ้นชื่อในเรื่องความแตกต่างของความสูงอย่างมหาศาล ด้านบนของน้ำตกพ่นน้ำออกมาจากหน้าผาสูงชันซึ่งพ่นเป็นหมอกในอากาศก่อนจะตกลงมาเป็นสายไข่มุก บนทุ่งหญ้าที่กว้างใหญ่ในหุบเขา ดอกไม้ป่าหลากสีแข่งขันกันเพื่อดึงดูดความสนใจ ในขณะที่ต้นไซเปรสและต้นซีควอยาที่ตั้งตรงอย่างเงียบเชียบในบริเวณโดยรอบ ยอดเขา ทุ่งหญ้า ป่าอัลไพน์ และน้ำที่ไหลสร้างภาพวาดที่งดงามราวภาพวาด พื้นที่ดังกล่าวยังได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในสถานที่แรกๆ ที่จะได้เห็นใบไม้สีแดงในฤดูใบไม้ร่วงของทุกปี ซึ่งจะเห็นได้เร็วที่สุดในช่วงปลายเดือนกันยายน
ไฮไลต์ของที่นี่คือจุดชมทัศนียภาพเเบบพาโนรามาอันสวยงามและใกล้ชิด จนได้ฉายาว่า “Little Switzerland” นอกจากนี้ยังมีเส้นทางเดินเท้า Trekking ไปยังเเหล่งท่องเที่ยวอื่นๆที่ใกล้เคียงอีกหลายแห่ง เช่น ป่าดึกดำบรรพ์ ทะเลสาบ ทุ่งหญ้าอัลไพน์ น้ำตก ยอดเขาสูงชัน และโขดหินรูปร่างแปลกตา ฯลฯ
เดินเที่ยว-ถ่ายภาพ และเก็บซับความทรงจำที่สวยงามจนได้เวลาสมควร ประมาณบ่ายสองโมงก็ต้องเตรียมตัวกลับ จากจุดนี้ต้องใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงในการเดินทางไปถึงหน้าอุทยาน เนื่องจากต้องขึ้นรถกอล์ฟสองช่วง (ประมาณ 10 กิโลเมตร) และต่อด้วยรถบัสอีก 26 กิโลเมตร ถ้านักท่องเที่ยวมีจำนวนมากก็อาจต้องเผื่อเวลาให้มากขึ้นไปอีกเนื่องจากต้องต่อคิวขึ้นรถ วิธีที่ดีที่สุดคือวางแผนไปค้างหน้าอุทยานหนึ่งคืนแล้วเริ่มเข้ามาเที่ยวตั้งเเต่เช้า
มีรถบัสจำนวนมากไว้คอยบริการนักท่องเที่ยว เห็นเเล้วก็อุ่นใจ..
ที่เห็นห้อยอยู่สีเเดงๆบนรถบัส คือถุงฉุกเฉินสำหรับนักท่องเที่ยวที่อาจมีอาการเมารถได้ โชคดีเราไม่จำเป็นต้องใช้..^^
ประมาณบ่ายสามโมงก็ถึงจุดนัดหมายที่รถ น่ายินดีที่ผู้โดยสารทุกคนต่างมากันตรงเวลา
ขากลับรถเเวะจอดที่ หมู่บ้านชนเผ่าทิเบต Ganbao Tibetan Village ประมาณ 20 นาที แล้ววิ่งยาวจนถึงเมืองเฉิงตูเลย ประมาณหนึ่งทุ่มรถปล่อยให้ลงที่บริเวณเดิม แล้วขึ้นเมโทรสาย 2 จากสถานี Jinke North Road ไปลงสถานี Chunxi Road ใช้เวลาประมาณ 25 นาที (11 สถานี) ค่าโดยสาร 5 หยวนเท่านั้น
ช่องทางการจองบัตรและตั๋วออนไลน์
[Trip.com]: อุทยานเเห่งชาติปี้เผิงโกว: ตั๋วรถบัสจากเฉิงตู-ปี้เผิงโกว-เฉิงตู, ตั๋วเข้าอุทยานฯปี้เผิงโกว, ทัวร์วันเดียว-หลายวันเที่ยวปี้เผิงโกว ฯลฯ
[Trip.Com]: จองโรงเเรมในบริเวณอุทยานปี้เผิงโกว
[Klook]: บัตรเข้าอุทยานฯ, ตั๋วรถบัส และทัวร์ต่างๆ