นครวัด (Angkor Wat) โบราณสถานสำคัญและมีชื่อเสียงของประเทศกัมพูชา หนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก โดดเด่นเคียงคู่กับ นครธม (Angkor Thom) ที่เมืองเสียมเรียบ คือจุดหมายปลายทางอันเป็นที่รู้จักของนักเดินทางท่องเที่ยวจากทั่วโลก
นครวัดถูกสร้างขึ้นเมื่อกว่า 800 ปีมาแล้ว ในรัชสมัยพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 (พ.ศ. 1656-1693) ผู้ครองอาณาจักรขอม โดยสร้างเป็นเทวาลัยบูชา และให้เป็นที่เก็บพระศพของพระองค์ นครวัดจึงแตกต่างกับปราสาทอื่นๆ ตรงที่หันหน้าไปทางทิศตะวันตก แทนที่จะเป็นทิศตะวันออกตามปราสาททั่วๆไป
ภายหลังจากสิ้นรัชกาลพระเจ้าชัยวรมันที่ 8 อาณาจักรขอมก็เริ่มเสื่อมถอย และล่มสลายไปในราวปี พ.ศ. 2099 ปราสาทต่างๆถูกปล่อยรกร้างให้ผืนป่าเข้ากลืนกินไปเป็นเวลานานเกือบ 500 ปี จนในปี พ.ศ. 2404 มีนักพฤกษศาสตร์ชาวฝรั่งเศสชื่อ นายอ็องรี มูโอต์ ซึ่งเดินทางข่ามน้ำข้ามทะเลมาศึกษาพรรณพืชเมืองร้อนในแถบประเทศไทย-ลาว-กัมพูชา ที่นี่เขาได้รับการบอกเล่าจากมิชชันนารีชาวฝรั่งเศสด้วยกันว่า อีกฟากหนึ่งของทะเลสาบในเมืองเสียมเรียบ มีซากโบราณสถานซ่อนอยู่ในป่าใหญ่ นายอ็องรีจึงได้บุกเข้าไปสำรวจในป่าทึบและได้พบกับปราสาทนครวัดเป็นแห่งแรก
หลังจากที่ฝรั่งเศสได้บุกกัมพูชาและยึดเป็นเมืองขึ้นในปี พ.ศ. 2406 ก็เริ่มมีนักโบราณคดี นักประวัติศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญงานศิลปะ สถาปนิก วิศวกร ฯลฯ เดินทางเข้ามาดู มาศึกษา และสำรวจนครวัด-นครธมกันมากมาย จนเป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียงตราบถึงทุกวันนี้
เชื่อกันว่า หินที่ใช้สร้างปราสาทนครวัด-นครธม ถูกลำเลียงมาจากบริเวณเขาพนมกุเลน ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 50 กิโลเมตรโดยใช้ช้างนับพันเชือก และล่องมาตามแม่น้ำเสียมเรียบเป็นจำนวนหลายล้านตัน การก่อสร้างใช้แรงคนงานนับแสนคน ใช้เวลาในการก่อสร้างยาวนานกว่า 30 ปี..
ส่วนนอกสุดของนครวัดกั้นด้วยคูเมืองขนาดใหญ่ ยาว(จากทิศตะวันออก-ตะวันตก) 1.5 กิโลเมตร กว้าง(จากทิศเหนือ-ใต้) 1.3 กิโลเมตร เนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 1,219 ไร่ มีทางเข้ายกระดับสูงในทิศตะวันตกข้ามคูเมืองเป็นระยะทาง 190 เมตร กำแพงปราสาทชั้นนอกสุดสร้างด้วยศิลาแลง มีขนาดยาวประมาณ 1,000 เมตร กว้าง 800 เมตร การจัดวางผังจำลองรูปแบบมาจากเขาพระสุเมรุที่ห้อมล้อมด้วยภูเขาบริวาร ตามคติความเชื่อในศาสนาฮินดู โดยมีปรางค์ประธานอยู่ตรงกลาง ล้อมรอบด้วยปรางค์บริวารทั้งสี่ทิศ
จุดถ่ายภาพปราสาทนครวัดที่สวยที่สุด สามารถมองเห็นปรางค์ปราสาทได้ทั้งห้ายอดสะท้อนเงาในน้ำ คือบริเวณสระน้ำซ้ายมือตรงทางเข้าด้านหน้า
นอกจากภาพสลักที่ส่วนใหญ่อยู่บนผนังด้านในของระเบียงคตชั้นล่างของตัวปราสาทแล้ว ตามผนังปราสาททั่วไปจะมีภาพสลักนางอัปสรอยู่เป็นจำนวนมากถึง 1,635 องค์ ที่ท่วงท่าและอริยาบทของแต่ละองค์จะไม่เหมือนกันเลย เชื่อกันว่านางอัปสรทั้งหลายนี้คือเทพที่คอยดูแลศาสนสถานนครวัด
ใจกลางมหาปราสาทคือปรางค์ประธานองค์กลางซึ่งอยู่บนชั้นที่ 3 มีทางขึ้นสูงชัน เปรียบเสมือนทางขึ้นเขาพระสุเมรุ อันเป็นที่อยู่ของทวยเทพ
การมาเที่ยวชมโบราณสถานที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานเช่นนครวัด-นครธม การศึกษาเพื่อความเข้าใจในที่มาที่ไปเป็นสิ่งสำคัญที่สมควรจะทำ ซึ่งจะทำให้เกิดอรรถรสและความหมาย เมื่อเราได้เห็นก้อนหินสักก้อน ก็จะเข้าใจในเรื่องราว และทำให้เห็นมากกว่าความเป็นก้อนหินธรรมดาๆก้อนหนึ่งเท่านั้น…
ความรุ่งเรืองของวันนี้ อาจเหลือเป็นเพียงเศษซากปรักหักพัง และกลายเป็นประวัติศาสตร์ให้คนรุ่นต่อไปได้ศึกษาในวันข้างหน้า นี่คือวัฎจักรอันเที่ยงแท้แน่นอนของโลกและชีวิต.. “O_O”
แชร์เรื่องนี้:
Leave a reply