Manezhnaya Square เป็นลานกว้างและสวนดอกไม้เล็กๆ ตั้งอยู่ทางด้านทิศเหนือของจตุรัสเเดงไม่ไกลจากสถานีเมโทร Okhotny Ryad ในบริเวณนี้เป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ (State Historical Museum), พิพิธภัณฑ์สงคราม 1812 (Museum of Patriotic War of 1812) และโรงเเรม Four Seasons นอกจากนี้ ห้างสรรพสินค้า Okhotny Ryad ช็อบปิ้งมอลล์ใต้ดินชื่อดังอีกแห่งของมอสโคว ก็อยู่ในบริเวณนี้เช่นกัน โดยมีพื้นที่ถึง 3 ชั้นเลยทีเดียว
อีกสิ่งหนึ่งซึ่งโดดเด่นที่สุดใน Manezhnaya Square คือ น้ำพุนาฬิกาโลก (World Clock Fountain) ลักษณะเป็นน้ำพุซึ่งรายล้อมโดมแก้วที่จำลองเป็นลูกโลก มีแผนที่ของประเทศต่างๆวาดไว้ ข้างบนสุดมีรูปปั้นของนักบุญเซนต์จอร์จ (St. George) ซึ่งได้รับการเคารพมากในหมู่ชาวคริสต์นิกายออโธด็อกซ์ โดยเป็นที่รู้จักกันจากตำนานการต่อสู้กับมังกร โดมแก้วนี้ยังทำหน้าที่เป็นสกายไล้ท์ให้กับ Okhotny Ryad Shopping Mall ที่อยู่เบื้องล่างด้วย
อาคารหลังใหญ่ที่อยู่ถัดออกไปคือศูนย์จัดเเสดงนิทรรศการ Moscow Manege Central Exhibition Hall
สวนข้างๆซ้ายมือที่ประดับตกเเต่งด้วยสีสันของดอกไม้ มีรูปปั้นม้าสี่ตัวในบ่อน้ำพุ ซึ่งอยู่ติดกับกำแพงทิศเหนือของพระราชวังเครมลิน คือ Aleksandrovsky Sad หรือ Alexander Park
เดินตรงไปอีกเรื่อยๆ จะเจอป้ายที่ชี้ไปยังอาคารขายตั๋วของ Moscow Kremlin Museum
ที่นี่เป็นสถานที่จำหน่ายตั๋วเพื่อเข้าชมสถาปัตยกรรมในพื้นที่บริเวณโบสถ์ต่างๆ (Cathedral Square) ตลอดจนตั๋วเข้าชมพิพิธภัณฑ์ (ห้อง Diamond Fund, Armoury Chamber, หอคอย Ivan the Great Bell Tower, ฯลฯ) ภายในพระราชวังเครมลิน สำหรับคนที่จองแบบออน์ไลน์ ก็สามารถนำเอา Electronics Voucher มาเปลี่ยนเป็นตั๋วเข้าชมตัวจริงได้ที่นี่เช่นกัน
อีกวิธีที่สะดวก คือการซื้อตั๋วจากเครื่องขายตั๋วโดยตรงเลย
พระราชวังเครมลิน (Kremlin Palace) หรือเรียกกันทั่วไปว่า มอสโควเครมลิน (Moscow Kremlin) เป็นคำที่ใช้เรียกบริเวณหมู่ตึกและป้อมปราการบริเวณใจกลางกรุงมอสโควของประเทศรัสเซีย กินอาณาบริเวณกว้างใหญ่ โดยทิศใต้เริ่มตั้งแต่บริเวณแม่น้ำมอสโคว ทิศตะวันออกเริ่มตั้งแต่มหาวิหารเซนต์เบซิลและจัตุรัสแดง ทิศเหนือ-ตะวันตกเริ่มตั้งแต่สวนอเล็กซานเดอร์ เครมลินแห่งมอสโควได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมโดยองค์กรยูเนสโก (UNESCO) เมื่อ ค.ศ. 1990
พระราชวังเครมลินแห่งนี้ในอดีตได้สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ประทับของพระเจ้าซาร์ทุกพระองค์ ปัจจุบันกลายมาเป็นพิพิธภัณฑ์ที่สำคัญ เป็นหนึ่งในสามพิพิธภัณฑ์ของรัสเซียที่เก็บรวบรวมสิ่งของเครื่องใช้ล้ำค่าและสวยงามต่างๆของพระเจ้าแผ่นดินที่สมบูรณ์แบบที่สุด ทั้งรูปเคารพทางศาสนาตลอดจนถึงทรัพย์สมบัติของพระเจ้าซาร์ ล้วนเก็บแสดงอยู่ในห้องต่างๆของพระราชวังเครมลิน ซึ่งมีจำนวนมากมายจนประเมินค่าไม่ได้
เครมลินยังเป็นที่ตั้งของหน่วยงานรัฐบาลหลายแห่ง รวมทั้งที่พำนักของผู้นำรัสเซีย ดังนั้นคำว่าเครมลินจึงมักถูกใช้โดยสื่อตะวันตก เพื่อสื่อถึงรัฐบาลโซเวียตหรือรัฐบาลรัสเซีย เหมือนกับที่ใช้คำว่าทำเนียบขาว แทนความหมายถึงรัฐบาลกลางสหรัฐ
เวลาเปิดให้เข้าชมของพระราชวังเครมลินคือเวลา 10:00 นาฬิกาตรง โดยขึ้นที่ Kutafya Tower แล้วเดินเข้าสู่ภายในผ่านทาง Troitskaya (Trinity) Tower
Kremlin Palace of Congresses (บางครั้งเรียก State Kremlin Palace): เป็นอาคารรูปทรงสมัยใหม่ มีขนาดใหญ่โต สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1959-1961 เพื่อใช้เป็นที่สำหรับการประชุมของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งสหภาพโซเวียต ตัวอาคารจึงถูกออกแบบมาให้ดูใหญ่โตและน่าเกรงขาม ปกติแล้วอาคารหลังนี้ไม่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปชมภายใน แต่จะเปิดใช้งานในโอกาสสำคัญใหญ่ๆเท่านั้น เช่น งานบัลเลต์นานาชาติ งานประชุมนานาชาติ บางครั้งก็ใช้เป็นที่จัดแสดงคอนเสิร์ตใหญ่ๆ ภายในอาคารประกอบไปด้วยห้องประชุมใหญ่ที่สามารถจุคนได้มากถึง 6,000 คน และห้องย่อยเล็กๆ อีกกว่า 800 ห้อง
อาคารสองชั้นสีเหลืองไข่ด้านซ้ายมือของ Trinity Tower คือ Kremlin Arsenal สร้างขึ้นในปี 1828 เพื่อใช้เป็นคลังเก็บอาวุธ และถูกปรับเปลี่ยนมาเป็นอาคารที่พักแทนในปลายศตวรรษที่ 19 อาวุธที่พอจะยกไปจัดเก็บได้ ถูกนำไปจัดแสดงที่ Armoury Chamber ส่วนปืนใหญ่หลากหลายชนิด จำนวน 875 กระบอก ยังคงตั้งแสดงไว้บริเวณหน้า Arsenal ให้เราได้เดินชมกัน ปัจจุบันใช้สำหรับเป็นที่พักของเหล่าทหารประจำเครมลิน
The Senate: คืออาคารสีอิฐรูปทรงสามเหลี่ยมมียอดโดมใหญ่ ๆ ที่ตั้งอยู่อีกฝั่งของ Arsenal สร้างขึ้นในปี 1711 ที่นี่เป็นที่พักของประธานาธิบดีของรัสเซีย และใช้เป็นอาคารต้อนรับผู้นำจากต่างประเทศอีกด้วย (ไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้าไป)
Grand Kremlin Palace (บางครั้งเรียก Great Kremlin Palace): สร้างในระหว่างปี ค.ศ.1837-1849 ในอดีตเป็นที่ประทับของพระเจ้าซาร์ในกรุงมอสโคว (ไม่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม)
Armoury Chamber: เป็นพิพิธภัณฑ์เก็บของมีค่าโบราณเช่น ชุดเครื่องเงิน-เครื่องทองที่มีลวดลายสลักงดงาม, อาวุธ, ชุดเกราะทหาร, รถม้าของพระจักรพรรดินี, บัลลังก์ของพระเจ้าซาร์, ราชรถ ฯลฯ การเข้าชมต้องซื้อตั๋วต่างหาก ภายในไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพ
The Daimond Fund: เป็นห้องกรุมหาสมบัติที่เก็บของมีค่ามหาศาลจำพวกเครื่องประดับ มงกุฎ เพชรพลอย ทับทิม มรกต ฯลฯ การเข้าชมต้องซื้อตั๋วเพิ่มเติมและไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพ
Twelve Apostles Church: สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 17 ในบรรดาโบสถ์และวิหารรอบๆ Cathedral Square นี่เป็นโบสถ์หลังเดียวที่ไม่มียอดโดมสีทอง ภายในตกแต่งอย่างสวยงาม ด้านล่างถูกปรับเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์
ใกล้กับ Twelve Apostles Church จะมี Tsar Cannon (ปืนใหญ่พระเจ้าซาร์) ทำจากทองสัมฤทธิ์ มีน้ำหนักถึง 40 ตัน ภายในลำกล้องปืนมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 890 มม. ลูกปืนใหญ่แต่ละลูกมีน้ำหนักประมาณ 1 ตัน ออกแบบและสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1586 เพื่อถวายพระเจ้าซาร์ Fyodor I Ivanovich โดยมุ่งหมายให้ใช้เป็นเครื่องประดับมากกว่าใช้เป็นอาวุธจริง
จตุรัสวิหาร (Cathedral Square / Sobornaya Square): คือลานจัตุรัสใหญ่ใจกลางเครมลินที่ล้อมรอบโดยอาสนวิหารโบราณหลายหลัง ที่สำคัญและเก่าแก่ได้แก่ Assumption Cathedral, Archangel Cathedral และ Annunciation Cathedral และ Ivan Bell Tower วิหารแต่ละแห่งต่างก่อสร้างขึ้นในยุคสมัยที่แตกต่างกัน จึงมีลักษณะสถาปัตยกรรมที่คล้ายคลึงแต่ก็ไม่เหมือนกันเสียทีเดียว โดยเป็นการผสมผสานของสถาปัตยกรรมสไตล์รัสเซียกับศิลปะแบบอื่นๆ เช่น ไบแซนไทน์ กรีก อิตาเลี่ยน ฯลฯ
Assumption Cathedral: อาคารวิหารประกอบด้วยโดมทั้ง 5 ซึ่งได้กลายมาเป็นต้นแบบของวิหารอื่นๆ ที่สร้างในยุคต่อๆมา เป็นวิหารที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดในบริเวณพระราชวังเครมลิน ใช้เป็นที่ประกอบพระราชพิธีขึ้นครองราชย์ของพระเจ้าซาร์ และยังเป็นที่ฝังศพของสังฆราชนิกายรัสเชียนออร์โธดอกซ์ด้วย
Annunciation Cathedral: เป็นสถาปัตยกรรมแบบผสมผสานระหว่างสไตล์กรีกกับรัสเซีย มี 9 โดม ในสมัยศตวรรษที่ 16-17 โบสถ์แห่งนี้ใช้ในงานราชพิธีต่างๆ เช่น พิธีแต่งงาน พิธีจุ่มศีลของราชวงศ์ มีจุดเด่นคือภาพวาดบนกำแพงที่สวยงาม และ ภาพนักบุญต่างๆ บน Iconostasis เลื่อมทองที่ตระการตา
Archangel Cathedral: วิหารสีขาวที่มียอดโดมสีเงิน 4 โดมล้อมรอบโดมสีทอง เป็นสถาปัตยกรรมศิลปะรัสเซีย-บาแซนไทน์ ชื่อวิหารตั้งขึ้นเพื่ออุทิศให้แก่อัครเทวทูต Archangel Michael ที่ถูกยกย่องให้เป็นเทพผู้พิทักษ์ของกรุงมอสโคว กษัตริย์อิวานที่ 3 ได้มีดำริจะสร้างวิหารแห่งนี้เพื่อเป็นที่เก็บพระศพของราชวงศ์ วิหารแห่งนี้จึงกลายเป็นวิหารเก็บพระศพของราชวงศ์ที่ใหญ่ที่สุดในรัสเซีย ภายในมี หลุมศพ 53 หลุมบนพื้น และ ป้ายจารึกอีก 46 ป้าย เป็นของบรรดาเจ้าชายและกษัตริย์รัสเซียที่เสียชีวิตในช่วงปี 1340-1696 หลุมศพของ Ivan the Terrible และ บุตรชายทั้ง 2 ก็อยู่ที่วิหารแห่งนี้เช่นเดียวกัน
Ivan the Great Bell-Tower: หอระฆังอิวาน สร้างเมื่อปี ค.ศ.1505-1508 หอคอยมีความสูง 80 เมตร มีจำนวนขั้นบันได 137 ขั้น อาคารตรงกลางมีระฆังขนาดใหญ่หนัก 64 ตันแขวนอยู่ ตามประเพณีแล้วระฆังนี้จะถูกตี 3 ครั้งเมื่อมีการสวรรคตของพระเจ้าซาร์เท่านั้น การเข้าชมข้างในต้องซื้อตั๋วต่างหาก ซึ่งสามารถเดินขึ้นไปยังชั้นบนของหอคอยเพื่อชมวิวจากมุมสูงได้
บริเวณด้านหลังของ Ivan Bell Tower จะพบกับ Tsar Bell (ระฆังพระเจ้าซาร์) เป็นระฆังขนาดใหญ่ มีน้ำหนักมากถึง 200 ตัน สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1730 เพื่อถวายแด่พระราชินี Anna Ivanovna โดยในระหว่างที่รอให้ระฆังเย็นหลังจากหล่อในเบ้าหลอมนั้นได้เกิดไฟไหม้ขึ้น จึงมีการฉีดน้ำเข้าไปเพื่อดับไฟ ทำให้ระฆังที่ร้อนจัดแตกออก โดยชิ้นส่วนที่แตกออกมานั้นมีน้ำหนักถึง 11 ตัน
จากระฆังพระเจ้าซาร์ เมื่อหันหน้ามาในทิศตะวันออก จะเป็น Spasskaya Tower ซึ่งมีประตูที่สามารถออกไปยังจตุรัสแดงได้โดยไม่ต้องย้อนกลับทางเดิม
เคล็ดลับ: การเข้าไปเที่ยวชมพระราชวังเครมลิน ควรวางแผนมาเเต่เช้าให้ทันเวลาเปิดในเวลา 10:00 นาฬิกา เพราะจะสามารถหลีกเลี่ยงความแออัดของนักท่องเที่ยวได้ \O_O/