หลังจากการมาเที่ยวเมืองฮานอยครั้งเเรกในปี 2517 ห้าปีผ่านไปเรามีโอกาสกลับมาเยือนที่นี่อีกครั้ง สภาพของบ้านเมือง วิถีชีวิตผู้คน และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ พบว่ายังคงดูเหมือนเดิม ไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงไปมากนัก นักท่องเที่ยวเริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้งจากการเปิดประเทศภายหลังการระบาดของโรคโควิดที่เริ่มคลี่คลายลง
ในทริปนี้เราใช้เวลาตระเวณเยี่ยมสถานที่ต่างๆที่เคยไปมาเมื่อครั้งก่อนเป็นการทบทวนความทรงจำ ก่อนจะปิดท้ายด้วยการไปสำรวจและทดลองใช้บริการรถไฟฟ้าสายเเรกของเมืองฮานอยที่เพิ่งเปิดให้บริการมาได้ไม่นาน ก่อนจะออกไปเที่ยว ฮาลองเบย์ และ ซาปา อันเป็นจุดหมายปลายทางหลักของทริปนี้..
*** สำหรับข้อมูลโดยละเอียด ติดตามได้ใน บันทึกการเดินทาง ครั้งที่แล้ว ***
เขต Old Quarter ย่านทะเลสาบ Hoan Kiem
— วัดหง็อกเซินและตำนานของทะเลสาบคืนดาบ —
— โบสถ์เซนต์โจเซฟ (St. Joseph Cathedral) —
— ฮานอยโอเปร่าเฮ้าส์ (Hanoi Opera House) —
Kem Trang Tien – ร้านไอศกรีมเก่าเเก่ที่มีชื่อเสียงมายาวนานกว่า 60 ปี ยังคงเปิดบริการ แถมยังได้ปรับปรุงร้านจนสวยงาม ทันสมัย
— พิพิธภัณท์ประวัติศาสตร์เวียดนาม (Vietnam National Museum of History) —
— พิพิธภัณฑ์และสุสานโฮจิมินห์ —
— เจดีย์เตริ่นกว็อก (Tran Quoc Pagoda) —
— รถไฟฟ้าเมืองฮานอย —
โครงการระบบขนส่งมวลชนหรือ รถไฟฟ้าฮานอย (Hanoi Metro System) ได้เริ่มต้นก่อสร้างมาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2011 แต่กว่าจะเปิดให้บริการได้อย่างเป็นทางการก็ต้องใช้เวลาถึง 10 ปี โดยมาเปิดให้บริการสายเเรกได้อย่างเป็นทางการเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2021 ที่ผ่านมานี่เอง
รถไฟฟ้าสายแรกที่เปิดให้บริการในกรุงฮานอยคือสาย 2A เส้นทาง Cat Linh – Ha Dong Line เป็นเส้นทางยกระดับคล้ายๆกับ BTS ของไทย ระยะทางประมาณ 13.1 กิโลเมตร มีจำนวนทั้งหมด 12 สถานี แต่เสียดายที่เส้นทางนี้ไม่ได้ผ่านสถานที่ท่องเที่ยวหลักๆของเมือง
Cat Linh Station ตั้งอยู่ห่างจากทะเลสาบ Hoan Kiem ประมาณ 3.4 กิโลเมตรทางทิศตะวันตก อาคารสถานีใหญ่โตกว้างขวาง ทันสมัย
อัตราค่าโดยสารตลอดสาย (12 สถานี) ราคา 15,000 VND. (ประมาณ 22 บาท)
บรรยากาศในรถคล้ายๆกับรถไฟฟ้าบีทีเอสบ้านเรา
รถไฟฟ้าสาย 2A นี้จะวิ่งไปสิ้นสุดที่สถานี Yen Nghia Station ซึ่งมีสถานีรถโดยสารทางไกลตั้งอยู่ และเป็นจุดเริ่มต้นของรถเมล์หลายสาย
จากการสังเกต พบว่ารถไฟฟ้าสายนี้ยังไม่ได้รับความนิยมจากคนท้องถิ่นเท่าไรนัก อาจเนื่องจากว่าระบบขนส่งของรถไฟฟ้ายังไม่ครอบคลุมพื้นที่ในกรุงฮานอยได้มากพอ ผู้คนจึงยังคงนิยมการใช้รถจักรยานยนต์และรถเมล์เป็นพาหนะหลักอยู่
ติดตามการเดินทางที่เหลือในทริปนี้ของเรา: ฮาลองเบย์ และ ซาปา
แชร์เรื่องนี้: