ผาช่อ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามและน่าสนใจอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่ ที่เรามักไม่ค่อยได้ยินใครพูดถึงกัน สาเหตุอาจเนื่องมาจากเส้นทางเข้าถึงที่ยังไม่ค่อยสะดวกนักในสมัยก่อนเพราะเป็นถนนลูกรัง แต่ในปัจจุบัน (อัพเดท: กันยนยน 2563) ได้รับการปรับปรุงเป็นถนนซีเมนต์อย่างดีแล้ว รถยนต์สามารถเข้าถึงได้อย่างสะดวกสบาย
ผาช่อ ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติแม่วาง อำเภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เพิ่งเปิดให้เข้าชมเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีลักษณะเป็น หน้าผาที่มีดินตะกอนสูงชัน มีความกว้างประมาณ 100 เมตร สูงประมาณ 30 เมตร ลักษณะของผาช่อนั้น มีการเรียงตัวของดินเป็นชั้นๆ ในแนวตั้งสลับกับแนวนอน เมื่อมองดูจะเห็นเป็นลวดลายที่สวยงามแปลกตา เป็นที่น่าตื่นตาตื่นใจ มีการยกย่องให้เป็นเเกรนด์เเคนยอนเมืองไทยจากนักท่องเที่ยว..
กระบวนการธรรมชาติที่รังสรรค์ให้เกิดผาช่อ เป็นกระบวนการเปลี่ยนแปลงทางธรณีวิทยาตั้งเเต่หลายล้านปีก่อน จนก่อให้เกิดเป็นรูปร่างทางธรรมชาติที่น่ามหัศจรรย์ของผาช่อในปัจจุบัน
การเดินทาง: จากเชียงใหม่ ขับรถมาตามถนนสาย 108 เชียงใหม่-ฮอด ผ่านอำเภอหางดง – สันป่าตอง มุ่งหน้าไปทางอำเภอจอมทอง เลี้ยวขวาทางเเยกที่ตำบลสันติสุข ประมาณกิโลเมตรที่ 37 แล้ววิ่งไปตามถนนสาย 2069 และ 2052 อีกประมาณ 16 กิโลเมตรก็จะถึงจุดหมายปลายทาง
ที่นี่มีลานจอดรถกว้างขวาง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกเช่น ห้องน้ำสะอาด ไว้บริการอย่างดี
เดินขึ้นเนินไปเล็กน้อย เป็นศาลาพักผ่อนอเนกประสงค์ มีบริการขายเครื่องดื่ม น้ำ ขนม เป็นจุดชมวิวและจุดเริ่มต้นการเดินเท้าไปยังผาช่ออีกด้วย
จากจุดนี้ เป็นเส้นทางเดินเท้าไปยังผาช่อ ระยะทางประมาณ 400 เมตร ทางอุทยานฯ ได้พัฒนาให้เป็นเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ ที่มีความหลากหลายของระบบนิเวศและลักษณะทางธรณีวิทยาที่สวยงามแปลกตา มีป้ายบอกข้อมูลรายละเอียดสิ่งที่น่าสนใจตลอดทางไป-กลับจำนวนทั้งสิ้น 11 สถานี
เส้นทางเดินได้รับการพัฒนาเเล้วเป็นอย่างดี ประกอบไปด้วยทางเดินยกพื้นคอนกรีต บันไดทางขึ้นเนินต่างๆ ตลอดจนจุดหยุดพักตามรายทางอย่างครบครัน สะดวกสบายกว่าที่เราคิดไว้ในใจเยอะเลย ^^
เส้นทางที่เดินส่วนใหญ่จะมีต้นไม้ปกคลุมตลอด จึงทำให้ไม่ร้อนนัก หลังจากผ่านไปสักพักพอเหงื่อซึม เราก็มาถึงปฏิมากรรมอัศจรรย์แห่งธรรมชาติ.. ผาช่อ
จากป้ายสถานีที่ 9 ต้องเดินลงบันไดอีกเล็กน้อยไปยังด้านล่างอันเป็นพื้นที่ด้านหน้าของผาช่อ ที่จุดนี้เราจะได้สัมผัสถึงความสูงตระหง่านและยิ่งใหญ่ของผาช่อ ที่เมื่อเปรียบเทียบแล้วทำให้ตัวเรามีขนาดเพียงเล็กนิดเดียวเท่านั้น
ข้อมูลทางวิชาการของผาช่อ: เนื่องจากบริเวณนี้เคยเป็นเส้นทางเดินของแม่น้ำมาก่อน ซึ่งสังเกตได้จากกรวดหินกลมมนที่กระจัดกระจายอยู่ในเนื้อดินเป็นจำนวนมาก ได้มีการสะสมตัวของตะกอนเป็นชั้นๆบริเวณขอบแอ่งและเชิงเขาของแนวเทือกเขาถนนธงชัยกลาง ตั้งแต่ช่วงปลายยุคเทอร์เชียรี ซึ่งเป็นช่วงที่แผ่นทวีปเคลื่อนที่เข้าสู่ตำแหน่งปัจจุบัน (ประมาณ 5 ล้านปีก่อน) ต่อมาเกิดการแปรสัณฐานของธรณีทำให้เส้นทางเดินของแม่น้ำเปลี่ยน บริเวณนี้ถูกดันตัวขึ้นกลายเป็นพื้นที่เนินเขาและเนื่องจากว่าตะกอนยุคเทอร์เชียรี ซึ่งมีอายุไม่มากนักจึงยังไม่เปลี่ยนสภาพเป็นหินแข็ง ชั้นของตะกอน หินกรวด และหินทราย ที่วางตัวเป็นชั้นสลับกันซึ่งมีคุณสมบัติคงทนต่อการสึกกร่อนต่างกันเมื่อถูกน้ำกัดเซาะชะล้างหน้าดินทำให้เกิดเป็นหน้าผาและแท่งเสาดินที่มีลวดลายโดดเด่น สวยงาม แปลกตา ดังเช่นในปัจจุบัน
เส้นทางกลับจะเป็นการเดินชมสภาพทางธรณีวิทยาของธรรมชาติ ที่ถูกการกัดเซาะจนมองเห็นชั้นดินและกรวด หินต่างๆ โดยเดินไปตามช่องเขาเเคบๆเป็นระยะทางช่วงหนึ่ง จนไปบรรจบกับทางที่เดินในช่วงขามา
ใช้เวลาไม่นาน ก็กลับมาถึงจุดชมวิวอันเป็นจุดเริ่มต้นเเละสิ้นสุดการเดินเที่ยวชมธรรมชาติของเรา ใช้ระยะเวลาไป-กลับประมาณ 2 ชั่วโมงเศษๆ
เราขับรถต่อไปยังแหล่งท่องเที่ยวที่เคยมีชื่อเสียงในอดีตอีกแห่งหนึ่ง แต่มักจะไม่ค่อยได้ยินใครพูดถึงมากนักในปัจจุบัน นั่นคือ น้ำตกเเม่ยะ จำได้ว่าในสมัยที่ยังเป็นเด็ก ความรุ้ในชั้นเรียนวิชาภูมิศาสตร์ไทยบอกเราว่า น้ำตกเเม่ยะเป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย แต่ในปัจจุบันได้ถูกน้ำตกทีลอซูที่จังหวัดตากแย่งตำแหน่งนี้ไปเสียแล้ว อย่างไรก็ตาม น้ำตกเเม่ยะก็ยังได้ชื่อว่าเป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่และสวยที่สุดของของบรรดาน้ำตกในจังหวัดเชียงใหม่ ที่สำคัญสามารถเดินทางไปเที่ยวชมได้ง่ายกว่า
การเดินทาง: จากผาช่อ ขับรถกลับมายังถนนสาย 108 แล้วมุ่งหน้าไปยังอำเภอจอมทอง ระยะทางประมาณ 26 กิโลเมตร ที่ตัวเมืองอำเภอจอมทอง มีทางเลี้ยวขวาตรงไปยังน้ำตกเเม่ยะ ระยะทางประมาณ 13 กิโลเมตร เป็นถนนราดยางอย่างดี มีทิวทัศน์สวยงามตลอดสองข้างทาง
ก่อนถึงน้ำตกเเม่ยะ มีด่านตรวจของอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เราต้องเสียค่าธรรมเนียมบำรุงอุทยานฯ ผู้ใหญ่คนละ 50 บาท, เด็ก 20 บาท, รถยนต์ 30 บาท ผู้มีอายุเกิน 60 ไม่ต้องเสีย ^^
จากบริเวณลานจอดรถ ต้องเดินเท้าเข้าไปอีกประมาณ 600 เมตร จึงจะถึงบริเวณตัวน้ำตก เเต่เป็นถนนอย่างดี บรรยากาศร่มรื่น
น้ำตกเเม่ยะ ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ทางด้านทิศใต้ ได้ชื่อว่าเป็นน้ำตกที่สวยเป็นอันดับต้นๆของไทย เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ เคยได้รับการจัดอันดับให้เป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทยก่อนมีการค้นพบน้ำตกทีลอซูที่จังหวัดตาก สายน้ำที่ตกมาจากหน้าผาสูงชัน ไหลลดหลั่นลงมากระทบโขดหินเป็นชั้นๆกว่า 30 ชั้น รวมความสูงกว่า 260 เมตร ในช่วงฤดูฝนสายน้ำตกจะแผ่กว้างถึง 100 เมตรเหมือนกับม่านน้ำ แล้วไหลลงไปรวมกันที่แอ่งน้ำเบื้องล่าง ดูสวยงามมาก
น้ำตกแม่ยะมีต้นกำเนิดมาจากลำห้วยหลายสายบนยอดดอยอินทนนท์ เช่น ขุนลำห้วยแม่ยะ ห้วยหลวง ห้วยฮ้อม ห้วยปางตอง ห้วยหมู ห้วยแม่ยะน้อย ซึ่งจะไหลลงมาบรรจบกับลำน้ำแม่กลาง ก่อนจะไหลลงสู่อำเภอจอมทองไปบรรจบกับลำน้ำปิงในที่สุด
ทั้งผาช่อและน้ำตกแม่ยะ ทำให้วันนี้ของเราเพลิดเพลินและสนุกสนาน แม้ว่าจะเหนื่อยล้าจากการเดินทาง เเต่ก็เป็นชีวิตอีกรูปแบบหนึ่งที่มีความสุข… \O_O/
แชร์เรื่องนี้:
Leave a reply