แบร์ชเทิสกาเดิน (Berchtesgaden) เป็นเมืองเล็กๆในรัฐบาวาเรีย ตั้งอยู่ในบริเวณเทือกเขา Bavarian Alps ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศเยอรมนี ใกล้กับชายแดนประเทศออสเตรีย บริเวณทางใต้ของเมืองเป็นที่ตั้งของอุทยานแห่งชาติ Berchtesgaden มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามและน่าสนใจหลายเเห่ง เช่น Rossfeld Panorama Strasse, ทะเลสาบ Konigssee, Eagle’s Nest ฯลฯ
การเดินทาง: เนื่องจาก Berchtesgaden อยู่ติดกับชายเเดนของประเทศออสเตรีย โดยอยู่ห่างจากเมืองมิวนิกไปทางตะวันออกเฉียงใต้ถึง 180 กิโลเมตร เเต่อยู่ห่างจากเมืองซาลซ์บูร์ก (Salzburg) ของออสเตรียเพียง 30 กิโลเมตรเท่านั้น จึงสามารถเดินทางมาจากเมืองในละเเวกนี้ (Salzburg, Innsbruck) ได้สะดวกกว่า โดยขึ้นรถไฟหรือรถโดยสารข้ามเเดนมายังเมือง Berchtesgaden เเล้วโดยสารรถบัสประจำทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ หรืออีกวิธีที่สะดวกและคล่องตัวกว่า คือการเช่ารถขับจากเมือง Salzburg โดยอาจเลือกพักค้างคืนในละเเวกนี้สักหนึ่งคืนก็ได้
เราขับรถจากเมือง Salzburg ใช้เวลาไม่นานก็เริ่มข้ามพรมเเดนมายังฝั่งของประเทศเยอรมนี (โดยไม่รู้ตัว^^) เพียงเเค่ทิวทัศน์สองข้างทางในยามเช้าของต้นฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ก็สวยงามเกินบรรยาย..
Rossfeld Panorama Strasse (Roßfeldpanoramastraße – horse field panoramic motorway) เป็นถนนที่ทอดระหว่างเทือกเขาในเขต Berchtesgaden ที่ความสูง 1,570 เมตรจากระดับน้ำทะเลมีจุดชมวิวเเบบพาโนรามาที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเมือง Salzburg ในฝั่งประเทศออสเตรียและเทือกเขาใหญ่น้อยของ German Alps ได้อย่างกว้างไกล ถนนเส้นนี้มีความยาวประมาณ 15.4 กิโลเมตร สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1937-1940 โดยเป็นส่วนต่อขยายของ German Alpine Road อันเป็นถนนที่เชื่อมระหว่างทะเลสาบ Constance และทะเลสาบ Königssee ซึ่งลัดเลาะไปตามแนวเทือกเขาเยอรมันอัลไพน์ มีความยาวทั้งสิ้นประมาณ 450 กิโลเมตร
ถนนสายชมวิว Rossfeld Panorama Strasse เป็นถนนที่มีการบริหารเป็นเอกเทศ ไม่ได้พึ่งพางบประมาณซ่อมบำรุงจากส่วนกลาง จึงมีการจัดเก็บค่าผ่านทางสำหรับรถยนต์ที่วิ่งผ่านคันละ 8 ยูโรสำหรับรถยนต์นั่งทั่วไป โดยมีด่านเก็บเงินอยู่ 2 จุดที่ทางเข้าด้านทิศเหนือ (เมื่อมาทาง Oberau) และด้านทิศใต้ (เมื่อเข้ามาทาง Obersalzberg)
หลังจากผ่านด่านเก็บค่าผ่านทาง ถนนเริ่มไต่ระดับสูงขึ้น ทัศนียภาพอันสวยงามก็เริ่มโผล่พ้นหมอกหนาที่ปกคลุมอยู่ออกมาให้เห็น
ตลอดเส้นทางประมาณ 15 กิโลเมตรของถนนเส้นนี้ จะมีจุดจอดรถอยู่เป็นระยะๆ สำหรับให้หยุดชมวิว (รองรับจำนวนรถได้ทั้งหมดถึง 400 คัน) โดยไฮไล้ท์จะอยู่ที่ Scheitelstrecke (จุดจอดรถ P5) ซึ่งมีทางเดินเพื่อชมวิวเป็นระยะทางยาวถึง 700 เมตร
ในช่วงฤดูหนาว ภูเขาในเเถบนี้ยังกลายสภาพไปเป็นสกีรีสอร์ทอีกด้วย
จากด่านเก็บเงินทางด้านทิศใต้ ขับรถไปทาง Obersalzberg อีกไม่ไกลจะถึงศูนย์บริการนักท่องเที่ยวและจุดจอดรถบัสสำหรับขึ้นไปยัง Kehlsteinhaus (Eagle’s Nest) สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอีกเเห่งหนึ่งของ Berchtesgaden
เคลสไตน์เฮาส์ (Kehlsteinhaus) หรือเป็นที่รู้จักในชื่อ รังอินทรี (Eagle’s Nest) เป็นอาคารสไตล์ชาเล่ต์ที่ตั้งอยู่สูง 1,834 เมตรบนยอดของภูเขาเคลสไตน์ บริเวณ Obersalzberg ใกล้กับเมือง Berchtesgaden ของรัฐบาวาเรีย ประเทศเยอรมนี ในอดีตที่นี่เคยเป็นบ้านพักส่วนตัวของ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ เป็นหนึ่งในกองบัญชาการที่เคยถูกใช้ในการประชุมหารือและวางแผนของพรรคนาซี บ้านแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นของขวัญวันเกิดครบรอบ 50 ปีให้แก่ฮิตเลอร์ในปี 1939 ผู้ดูแลในการสร้างคือ มาร์ติน บอร์มันน์ (Martin Bormann) หนึ่งในคนสนิทสำคัญของฮิตเลอร์
ปัจจุบัน Eagle’s Nest ได้กลายเป็นแหล่งท่องเทียวที่สำคัญของรัฐบาวาเรีย บ้านพักบนเขาได้กลายสภาพไปเป็นภัตตาคาร และเปิดบริการให้นักท่องเที่ยวเฉพาะในช่วงฤดูร้อนจนถึงปลายฤดูใบไม้ร่วงเท่านั้น
เนื่องจากถนนที่เเคบและพื้นที่บนเขาที่มีจำกัด การเดินทางขึ้นไปเที่ยวบน Eagle’s Nest จึงต้องใช้บริการของรถบัสที่จัดให้เท่านั้น โดยนักท่องเที่ยวต้องจอดรถที่ลานด้านล่างเเล้วซื้อตั๋ว (16.6 ยูโร สำหรับตั๋วไป-กลับ) ซึ่งรวมค่าโดยสารรถบัสและการขึ้นลิฟต์เพื่อต่อขึ้นไปยังบ้านที่อยู่บนเขา เเม้ว่าจะมีนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก เเต่ก็มีระบบการบริหารจัดการที่ดี มีรถให้บริการอย่างเพียงพอ
รถบัสโดยสารต้องวิ่งคดเคี้ยวไปตามถนนที่มีขนาดไม่ใหญ่มากนัก โดยวิ่งลัดเลาะขึ้นไปบนเนินเขาเป็นระยะทางประมาณ 7.5 กิโลเมตร
เมื่อถึงจุดจอดรถบนเขา นักท่องเที่ยวต้องเดินผ่านอุโมงค์ยาวไปขึ้นลิฟต์ขนาดใหญ่ ที่ผนังภายในลิฟต์เคลือบด้วยทองคำเหลืองอร่าม (ไม่อนุญาตให้ถ่ายรูป) เพื่อขึ้นไปด้านบนเขาอีกที
ออกจากลิฟต์ ก็จะพบกับบ้านพักซึ่งปัจจุบันได้กลายสภาพเป็นภัตตาคารไปแล้ว
จากตัวภัตตาคารที่อยู่บนเขา สามารถออกมาด้านนอก แล้วเดินขึ้นเนินไปอีกเล็กน้อย จนถึง Summit Cross ซึ่งเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมพากันมานั่งพักผ่อน-ชมวิวของภูเขาที่โอบล้อมอยู่โดยรอบ ตลอดจนทัศนียภาพของเมืองและทะเลสาบ Konigssee ที่อยู่เบื้องล่าง
หลังจากเที่ยวชมจนได้เวลาพอสมควร ก็ลงลิฟต์แล้วเดินผ่านอุโมงมารอขึ้นรถบัสที่อาคารด้านล่าง เเนะนำว่าให้จองเที่ยวเวลาของรถบัสขากลับไว้ล่วงหน้า (ตอนมาถึง ก่อนที่จะขึ้นไปบนยอดเขา) เพื่อที่จะได้ไม่ต้องรอนานเกินไป
รถชัตเติ้ลบัสจะมาจอดที่ศุนย์บริการนักท่องเที่ยวด้านล่างเหมือนเดิม จากจุดนี้ เราสามารถเดินทางไปเที่ยวต่อยังทะเลสาบ Konigssee, หมู่บ้าน Ramsau, ทะเลสาบ Hintersee, ฯลฯ ที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลได้.. \O_O/