Bavaria Romantic Road (Romantische Straße ในภาษาเยอรมัน) หรือที่รู้จักกันในหมู่นักท่องเที่ยวว่า ถนนสายโรเเมนติกแห่งแคว้นบาวาเรีย เป็นเส้นทางขับรถยอดนิยมที่มีชื่อเสียงและว่ากันว่าสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของเยอรมนี เส้นทางนี้มีความยาวทั้งสิ้นประมาณ 350 กิโลเมตร โดยเริ่มต้นจากเมือง Würzburg แล้วลัดเลาะลงไปทางใต้จนถึงเมือง Füssen บริเวณเทือกเขาแอลป์ ติดกับพรมเเดนของออสเตรีย
มีเมืองและหมู่บ้านใหญ่น้อยตั้งเรียงรายอยู่บนถนนเส้นนี้ (ตามข้อมูลระบุว่ามีถึง 29 เมือง) ซึ่งต่างล้วนมีความสวยงามและเอกลักษณ์เเตกต่างกันไป การท่องเที่ยวในเส้นทางนี้สามารถทำได้โดยการใช้รถบัสประจำทางหรือรถไฟ เเต่วิธีที่สะดวกที่สุดคือการเช่ารถขับเอง เพราะเราสามารถเลือกหยุดเเวะชมหรือพักตามเมืองที่เราสนใจได้ ความโดดเด่นของเส้นทางสายนี้ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก คือการได้ชมบ้านเมืองอันสวยงาม ที่ยังคงอบอวลไปด้วยกลิ่นอายของอารยธรรมยุคกลาง เช่น บ้านโครงไม้ซุงหลังคาจั่ว กำแพงเมืองเก่า ป้อมปราการ พระราชวังและปราสาทเก่าเเก่ต่างๆ ที่เเสดงถึงความรุ่งเรืองในอดีตของดินแดนแห่งนี้ เสน่ห์และความประทับใจของเส้นทางสายนี้ยังรวมไปถึงบรรยากาศของวิวสองข้างทาง เนื่องจากเส้นทางส่วนใหญ่จะเป็นถนนเส้นเล็กๆ วิ่งผ่านไปตามพื้นที่ชนบท ซึ่งมีทิวทัศน์สวยงาม อันเป็นที่มาของฉายา ถนนสายโรเเมนติก..
Romantische Straße ถูกสร้างขึ้นในช่วงปี ค.ศ.1950 เพื่อฟื้นฟูและกระตุ้นการท่องเที่ยวหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 จบลง นักเดินทางกลุ่มแรกที่มาเที่ยวบนเส้นทางนี้คือครอบครัวของทหารอเมริกันที่ประจำการอยู่ที่ฐานทัพในแคว้นบาวาเรียและบาเดิน หลังจากนั้นไม่นานชื่อเสียงของเส้นทางสายโรแมนติกก็ถูกบอกต่อๆกันออกไป จนเป็นที่รู้จักเเละได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยว และกลายมาเป็นเส้นทางยอดนิยมไปในที่สุด
ทริปขับรถของเราใช้เวลา 3 วัน โดยเริ่มต้นที่ เมืองวืร์ซบวร์ก (Würzburg) อันได้ชื่อว่าเป็นประตูสู่เส้นทางถนนสายโรเเมนติก เราพักค้างคืนที่นี่ด้วยหนึ่งคืน
บรรยากาศของชนบทและหมู่บ้านที่สวยงามในเส้นทางสายนี้บาด-เมอร์เกินท์ไฮม์ (Bad Mergentheim) อยู่ห่างจาก Wurzburg เป็นระยะทางประมาณ 50 กิโลเมตร ที่นี่เป็นเมืองที่มีแหล่งน้ำเเร่ เป็น Spa Resort ที่มีชื่อเสียง
ไวเคอร์สไฮม์ (Weikersheim) อยู่ห่างจากเมือง Bad Mergentheim เพียงเเค่ 12 กิโลเมตร เป็นเมืองเล็กๆที่มีเสน่ห์และเอกลักษณ์คืออาคารบ้านเรือนและสถาปัตยกรรมแนวบาโรก (Barock) มีปราสาทไวเคอร์สไฮม์ (Schloss Weikersheim) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ
จากเมือง Weikersheim ทิวทัศน์สองข้างทางเริ่มเปลี่ยนเป็นทุ่งหญ้าเขียวขจี ประดับด้วยดอก Rapeseed สีเหลืองงามอร่ามเป็นระยะๆ
ประมาณ 30 กิโลเมตรจาก Weikersheim จะถึงจุดหมายปลายทางที่เราเเวะพักค้างคืน เมืองที่เป็นไฮไลต์ มีชื่อเสียง เป็นที่นิยมและรู้จักกันมากที่สุดของนักท่องเที่ยวบนเส้นทางนี้.. โรเธนเบิร์ก ออบ เดียร์ เทาเบอร์ (Rothenburg ob der Tauber)
ประมาณ 2-3 กิโลเมตรก่อนจะถึง มีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นวิวเมืองได้อย่างสวยงามจากบริเวณเนินสูง
โรเธนเบิร์ก ออบ เดียร์ เทาเบอร์ (Rothenburg ob der Tauber) เป็นเมืองที่สะท้อนเละบอกเล่าเรื่องราวของวิถีชีวิตในยุคกลางได้อย่างชัดเจนมาก มนต์เสน่ห์ของเมืองนี้คืออาคารบ้านเรือนในเเบบโบราณทรงหน้าจั่ว ที่มีสีสันสดใส ซึ่งถูกรายล้อมอยู่ในกำเเพงเมืองเก่าที่ยังคงได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี
รีวิวฉบับเต็ม: โรเธนเบิร์ก ออบ เดียร์ เทาเบอร์ (Rothenburg ob der Tauber)
เนิร์ดลิงเงิน (Nördlingen) อยู่ห่างจากเมือง Rothenburg ob der Tauber ประมาณ 76 กิโลเมตร เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในพื้นที่หลุมอุกกาบาต จึงดูเหมือนอยู่ในแอ่งกะทะทรงกลม โดยมีเรื่องเล่ากันว่าเมื่อ 14-15 ล้านปีก่อนเคยมีอุกกาบาตลูกหนึ่งซึ่งเคลื่อนที่ด้วยความเร็วประมาณ 7,000 กิโลเมตรต่อชั่วโมงพุ่งชนในบริเวณนี้จนทำให้เกิดเเอ่งขนาดใหญ่ซึ่งมีลักษณะคล้ายหลุมอุกาบาตบนดวงจันทร์ ปัจจุบันเต็มไปด้วยบ้านเรือนยุคกลางและเรอเนซองซ์ที่มีหลังคาสีเเดงส้ม มีกำเเพงเมืองโบราณล้อมรอบ
หลังจากขับผ่านเมืองน้อยใหญ่อีกหลายเมือง เช่น Harburg, Augsburg, Landsberg am Lech ฯลฯ ลงสู่พื้นที่ทางตอนใต้ ทิวทัศน์สองข้างทางจะเริ่มเป็นทุ่งหญ้าอันมีทิวเขาใหญ่น้อยที่ยอดยังถูกปกคลุมด้วยหิมะเป็นฉากหลัง…
ถนนสายโรแมนติก Bavaria Romantische Straße มาสิ้นสุดที่เมือง Fussen บริเวณตอนใต้ของเยอรมนี ใกล้กับพรมเเดนออสเตรีย จุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่นิยมเดินทางมาเที่ยวชม ปราสาทนอยชวานชไตน์ (Schloss Neuschwanstein) และ ปราสาทโฮเฮ็นชวานเกา (Schloss Hohenschwangau)
รีวิวฉบับเต็ม: ปราสาทนอยชวานชไตน์ (Schloss Neuschwanstein)
การท่องเที่ยวในเส้นทางสายโรแมนติกนี้ ควรจัดโปรเเกรมอย่างน้อย 4 ถึง 5 วันเพื่อที่จะได้ค่อยๆซึมซับและเเวะเที่ยวในเมืองต่างๆตามรายทางโดยไม่ต้องเร่งรีบ ความประทับใจของทริปนี้อยู่ที่การได้เดินทางผ่านบ้านเมือง ชนบท ได้ดื่มด่ำกับภาพทิวทัศน์อันสวยงามสองข้างทาง ซึ่งเชื่อมเมืองเล็กๆที่น่ารักๆเหล่านั้นเข้าด้วยกัน เพราะว่า ความสุขคือการเดินทาง มิใช่จุดหมายปลายทาง… \O_O/