หลายคนอาจจะไม่เคยรู้มาก่อน ว่าในวันที่ 25 ธันวาคมอันเป็นวันคริสต์มาส เเทบทุกเมืองของประเทศอังกฤษ (ประเทศอื่นๆคิดว่าก็คงคล้ายๆกัน) จะเงียบสงบจนคล้ายกับเมืองร้าง ร้านค้า ร้านอาหาร รถโดยสารสาธารณะ หรือเเม้กระทั่งรถไฟต่างก็หยุดการให้บริการ ผู้คนจะพากันเฉลิมฉลองอย่างสงบอยู่กับครอบครัวภายในบ้าน
เเต่สำหรับนักท่องเที่ยวอย่างเรา ถือว่าเป็นโอกาสอันดีที่จะได้เดินเที่ยวชมบ้านเมือง ตลอดจนเเลนด์มาร์คสำคัญต่างๆได้อย่างสะดวกสบาย เรียกได้ว่าทั้งเมืองเป็นของเรากันเลยทีเดียว มาตามเราไปเดินตระเวณเที่ยวชมเมืองลิเวอร์พูล ในเช้าวันคริสต์มาสกัน…
เริ่มต้นที่ Liverpool One ศูนย์กลางของห้างร้านและเเหล่งช้อบปิ้งที่คึกคักที่สุดของเมือง
ที่บริเวณหัวถนน Paradise Street ไม่ไกลจากห้าง John Lewis มี อนุสรณ์บานประตูเก่า ของ Liverpool Sailors’ Home (อาคารที่พักอาศัยของชุมชนกลาสีเรือในอดีต) ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณนี้ในระหว่างปี ค.ศ.1850-1969 ก่อนจะรื้อถอนไปในปี ค.ศ.1974 และถูกเเทนที่ด้วยศูนย์การค้า Liverpool One ในปัจจุบัน
สตรีทอาร์ทเก๋ๆ สำหรับสาวกหงส์เเดงที่ Jamaica Street
ไชน่าทาวน์เกท ของเมืองลิเวอร์พูลที่ Great George Street (ปัจจุบันร้านค้าต่างๆได้ย้ายออกไปอยู่ที่อื่นจนเหลืออยู่เพียงไม่กี่เเห่ง) อาคารที่อยู่ติดกันคือ Congregational Church
ไม่ไกลจากไชน่าทาวน์เกท คือ Liverpool Cathedral เป็นมหาวิหารเเองกลิกันที่ตั้งอยู่บนเนินเขาเซนต์เจมส์ (St James’s Mount) มีความยาวภายนอกอาคารถึง 189 เมตร ได้รับการจดสถิติว่าเป็นมหาวิหารที่มีความยาวที่สุดในโลก
St. Luke’s Bombed Out Church เป็นโบสถ์สถาปัตยกรรมกอธิคที่เคยถูกกองทัพเยอรมันทิ้งระเบิดในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 (ปี ค.ศ.1941) สร้างความเสียหายเเก่ส่วนหลังคาเเละภานในอาคาร เหลืออยู่เเต่เพียงโครงสร้างโบสถ์ภายนอก ซึ่งในปัจจุบันได้รับการคงสภาพเอาไว้เป็นอนุสรณ์สถาน เพื่อรำลึกถึงผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์สงครามโลกในครั้งนั้น
เมืองลิเวอร์พูลยังมีมหาวิหารอีกเเห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ห่างออกไปทางเหนือประมาณครึ่งไมล์ คือ Metropolitan Cathedral of Liverpool เป็นวิหารของคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก
ไม่ไกลจาก Metropolitan Cathedral เป็นที่ตั้งของ Hope Street Hotel ความพิเศษของโรงเเรมนี้คือเป็นโรงเเรมที่นักฟุตบอลทีมลิเวอร์พูลจะมาพักเก็บตัวในคืนก่อนวันเเข่งขันเสมอ ซึ่งบรรดาเเฟนคลับของทีมฯมักจะมาดักรอเพื่อทักทายและขอลายเซ็นต์จากนักเตะที่ตนชื่นชอบได้ที่นี่
เดินวกถัดลงมาเรื่อยๆจะถึง Liverpool Lime Street Station อันเป็นสถานีรถไฟหลัก(ที่วิ่งระหว่างเมือง)ของเลิเวอร์พูล
St George’s Hall เป็นอาคารสถาปัตยกรรมแบบนีโอคลาสสิค อยู่ตรงข้ามกับสถานีรถไฟ Liverpool Lime Street Station ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1838 เพื่อใช้เป็นศาลตัดสินคดีของเหล่าขุนนาง (Crown Court) และพลเรือน (Civic Court) รวมไปถึงใช้เป็นฮอลล์จัดเเสดงคอนเสิร์ตด้วย ในปัจจุบันใช้เป็นสถานที่จัดกิจกรรมต่างๆ
St. John’s Garden เป็นสวนหย่อมขนาดเล็กๆลาดลงไปตามเนิน อยู่ด้านหลังของอาคาร St. George’s Hall มีรูปปั้นอนุสาวรีย์ที่สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงบุคคลต่างๆที่เคยสร้างชื่อและคุณประโยชน์ให้เเก่เมืองนี้
World Museum เป็นพิพิธภัณฑ์ขนาดใหญ่ ภายใต้อาคารสไตล์นีโอคลาสสิคสูง 6 ชั้น เป็นแหล่งเรียนรู้ชั้นดีของทั้งเด็กเเละผู้ใหญ่ (เข้าชมฟรี)
Liverpool Central Library: ห้องสมุดประจำเมืองลิเวอร์พูล แบ่งใช้พื้นที่ส่วนหนึ่งของอาคารร่วมกันกับพิพิธภัณฑ์ World Museum
หอศิลป์ Walker Art Gallery คืออาคารที่อยู่ถัดไป ยังคงเป็นสถาปัตยกรรมสไตล์นีโอคลาสสิคเช่นเดียวกับพิพิธภัณฑ์และห้องสมุด บนหลังคามีรูปปั้นของ เทพธิดาแห่งเมืองลิเวอร์พูล (Spirit of Liverpool)
เดินลงมาอีกจนถึงถนน High Street จะพบกับ Liverpool Town Hall ซึ่งสร้างในปี ค.ศ.1749
ด้านหลังอาคาร Liverpool Town Hall มีอาคารรูปทรงตัวยู ชื่อ Exchange Flags ที่นี่เคยถูกใช้เป็นกองบัญชาการรบด้านทะเลตะวันตก (Western Approaches Command Headquarters) ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ปัจจุบันเป็นอาคารสำนักงานธุรกิจ พิพิธภัณฑ์ ร้านอาหาร ฯลฯ นัยว่า Vincent Cafe and Cocktail Bar ที่อยู่ชั้นล่างของอาคารกลาง เจ้าของคือสตีเว่น เจอร์ราส อดีตนักเตะชื่อดังของทีมลิเวอร์พูล ^^
จาก Liverpool Town Hall เดินไปตามถนน Castle Street ไม่ไกลก็จะถึง Derby Square ที่นี่มี อนุสาวรีย์ควีนวิกตอเรีย (Queen Victoria Monument) ซึ่งถูกสร้างขึ้นในพื้นที่อันเคยเป็นที่ตั้งของปราสาทลิเวอร์พูล (Castle of Liverpool) ในอดีต
การเดินทัวร์ตระเวณเมืองลิเวอร์พูล (ในภาคเเรก) ของเรากลับมาจบลงที่บริเวณศูนย์กลางย่านธุรกิจและการค้า Liverpool One ในตอนต่อไปเราจะพาไปเดินเที่ยว Albert Dock ซึ่งเป็นท่าเรือและโกดังเก็บสินค้าที่สำคัญในอดีต ก่อนที่จะพัฒนามาเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่คึกคักและมีชื่อเสียงอีกเเห่งหนึ่งของเมืองลิเวอร์พูล.. \O_O/